การกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของ คริส พีรวัส และ สิงโต ปราชญา หลังจากห่างหายไปเกือบ 7 ปี พร้อมเล่าถึงการปรับตัวและเคมีที่ดีขึ้นเมื่อได้ร่วมงานกันอีกครั้งในซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ The Ex-Morning
MF: แนะนำตัวกับชาว Men’s Folio Thailand
คริส: คริส พีรวัส แสงโพธิรัตน์ ครับ
สิงโต: สวัสดีครับ สิงโต ปราชญา เรืองโรจน์ ครับผม
MF: ความรู้สึกที่ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง
คริส: ดีครับ เป็นความคิดถึงของพวกเราแล้วก็แฟนๆ ด้วยที่ห่างหายกันไปนานมาก เพราะว่าซีรีส์ก็น่าจะประมาณเกือบๆ 7 ปีครับ แล้วก็ไม่ได้ร่วมงานกันเลย
ประมาณเกือบๆ 3 ปี เพราะงั้นก็นานมากๆ ครับ
สิงโต: เราร่วมงานกันในพาร์ทของการแสดงและก็การทำงานในวงการเป็น
ครั้งแรกของเราทั้งคู่ แล้วเราก็ค่อนข้างจะหายไปนานในเรื่องของการแสดง
จนมีโอกาสได้กลับมาทำงานร่วมกันใน 7 – 8 ปีต่อมา ก็ค่อนข้างที่จะแอบกังวลนิดนึง แต่พอเริ่มเวิร์กชอป เริ่มทำงานด้วยกันจริงๆ ก็ค้นพบว่ามันง่ายขึ้น มันฟรีเหมือนเดิมเลย การ Coaching 2 คนมันจะไวมาก
MF: The Ex-Morning
สิงโต: เป็นซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ ที่ก็มีกลิ่นอายความดราม่า อย่างที่บอกคือ
มัน Ex-Morning คือเรื่องของแฟนเก่า คอนเซ็ปต์ของเรื่องคือแฟนเก่า เพราะฉะนั้นมันมีกลิ่นอายของความเป็นโรแมนติกคอมเมดี้อยู่แล้ว แต่มันก็มีกลิ่นอายของความดราม่าของการเป็นแฟนเก่าด้วยครับ เพราะว่าตัวตามตะวันกับปฐพีเคยคบกันในช่วงสมัยเรียนแล้วก็เลิกกันไป แต่เราจะไม่สปอยล์ว่าเลิกกันด้วยพาร์ทไหนเพราะอะไร แต่ว่าทั้งคู่ต้องกลับมาทำงานร่วมกันอีก ประเด็นมันจะเริ่มจากตรงนั้น
MF: พูดถึงตัวละครที่ได้รับ
คริส: ของคริสได้รับเป็นตัวละครชื่อ ปฐพี ครับ ปฐพีเป็นนักข่าวที่ประสบ
ความสำเร็จในชีวิต ในการทำข่าวมากๆ แต่ว่าเป็นคนที่มีความมั่นใจ มีความคิดเป็นของตัวเองสูงมาก แล้วก็มีความเป็น Perfectionist ในการทำงานของตัวเองอยู่สูงมากๆ แต่ว่าอุปนิสัยข้างในเขาจริงๆ ก็คือเป็นคนที่แข็งนอกอ่อนใน จิตใจข้างในเขาก็ค่อนข้างที่จะอ่อนไหวไปตามความรู้สึกอยู่มากเหมือนกันครับ
สิงโต: ส่วนผมเป็น ตามตะวัน ครับ ตามตะวันก็เป็นเพื่อนสมัยเรียนร่วมกันมากับปฐพี แล้วก็ทำงานบริษัทเดียวกันตอนก่อนเลิกกัน จนถึงช่วงเลิกกันไปก็คือเป็นพาร์ทที่ได้เป็นโปรดิวเซอร์ครับผม ในช่วงที่ตัวละครปฐพีมีปัญหาก็เป็นตามตะวันเนี่ยแหละที่โดนตามตัวให้กลับมาช่วยปฐพีทำงาน เพื่อช่วยกู้ชื่อเสียงของตัวปฐพี
MF: ถ้าทั้งคู่ได้สลับบทกัน
คริส: สำหรับคริสตัวละครตามตะวันไม่ได้แตกต่างจากตัวตนของคริสจริงๆ เท่าไหร่ เพราะว่าเป็นคนวางแผน เป็นคนมีความรับผิดชอบในการทำงานสูงมาก เป็นคนที่ระมัดระวังในเรื่องการทำงานค่อนข้างดีมากๆ เลยรู้สึกว่าเวลาเราทำงานอะไรอย่างงี้ เราค่อนข้างวางแผน เลยอาจจะเข้าใจเขามากๆ แต่ว่าอาจจะมีบางมุมที่เราอาจจะยังไม่ได้เข้าใจตามตะวันทั้งหมด ก็จะต้องแบบไปหาดูว่าเพราะอะไรครับ อย่างเช่นการหายไปโดยไม่บอก หรือว่าไม่พูดตรงๆ เราก็จะรู้สึกว่าเราไม่ค่อยเข้าใจ
การกระทำนี้ของตัวตามตะวันเท่าไหร่ ถ้าอาจจะต้องสลับบทก็อาจจะต้องไปทำการบ้านเรื่องนี้มาว่า เขาหายไปนี่ เขาใช้ความคิดด้านไหนมาทำให้เขาหายไปโดยที่เขาไม่ได้บอกอะไรเราครับ
สิงโต: ผมว่าถ้าสลับบทในพาร์ทของการทำงานในอาชีพ ในเรื่องของตัวละคร
ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะสุดท้ายแล้วมันเรียนด้วยกันมา แล้วก็การทำงานก็
ทำงานกัน คู่กันมาทั้งปฐพี แล้วก็ตามตะวันมาโดยตลอด จะให้ใครคนนึงรายงานข่าว หรือจะให้ใครคนนึงไปเป็นโปรดิวเซอร์สลับกัน เรียกได้ว่าแทบไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วในพาร์ทของตัวละครทำงาน แต่ในเรื่องของอุปนิสัยของตัวละครเนี่ย
ค่อนข้างที่จะ เหมือนที่คริสบอกเลยคือ ถ้าต้องสลับกันจริงๆ มันก็ต้องเวิร์กชอปใหม่อยู่ดี เพราะว่าการจะรู้ตื้นลึกหนาบางของตัวละครแต่ละตัวมันค่อนข้างที่จะใช้เวลา บางทีพอเปิดกล้องแล้ว การแสดง 2 – 3 คิวแรกของตัวเอง ยังต้องมานั่งเคาะตัวละครตัวเองใหม่อีกที
MF: มีซีนไหนที่รู้สึกประทับใจเป็นพิเศษ
สิงโต: มันเพิ่งถ่ายไป (หัวเราะ)
คริส: แต่ขณะที่ถ่ายไปแล้วก็มีเยอะครับ มีซีนที่ชอบๆ เยอะอยู่ มีซีนที่เราแบบว่าสนุกกับมันมากๆ มีซีนที่มันตลก ฮามากๆ อะไรอย่างงี้ เพราะว่าตอนแรกที่เราอ่าน เรานึกว่ามันจะเป็นคอมเมดี้ที่น้อยมาก มันควรจะเป็นดราม่าที่แบบเยอะหน่อยครับ แต่ว่าพอถ่ายไปถ่ายมาก็รู้สึกว่ามันก็คอมเมดี้เยอะมากอยู่เหมือนกัน มันทำให้ผมชอบเพราะว่าผมชอบอะไรที่มันแบบเป็นคอมเมดี้เยอะๆ เป็นจังหวะตลกเยอะๆ ครับ เลยแบบเรื่องนี้โชคดีมาก รู้สึกว่าตัวเองได้ใช้ความคอมเมดี้ของตัวเองในเรื่องนี้สูงมากก็เลยรู้สึกว่าสนุกอยู่หลายซีนเลยครับ ต้องไปรอติดตามดูครับ
สิงโต: จริงๆ ผมก็เป็นคนนึงที่ไม่ค่อยชอบซีนดราม่า เพราะมันเหนื่อย แต่ว่าพวกซีนคอมเมดี้ มันมีความอิสระของซีนคอมเมดี้คือเราอิมโพรไวส์ง่าย และการอิมโพรไวส์ของเราส่วนใหญ่จะผ่าน หมายถึงว่าผู้กำกับจะให้ผ่าน เพราะว่าอิมโพรไวส์แล้ว
มันมีความตลก มันมีกลิ่นอายความตลกของมันอยู่เสมอ เพราะงั้นมันมีหลายซีนเหมือนกัน ที่เราอิมโพรไวส์กันไปเองในซีนคอมเมดี้ แล้วเรารู้สึกว่ามันจอย
MF: มี Genre ไหนของซีรีส์ที่อยากเล่นอีกไหม
สิงโต: หนังผีๆ ของผมหนังผี
คริส: จริงๆ อยากเล่นบทที่มันแบบเข้มข้นๆ หน่อยพวกแบบบทโรคจิต บทฆาตกรโรคจิต บทที่เราต้องไปศึกษาเกี่ยวกับเคมีในสมองเยอะๆ รู้สึกว่าอยากลองเล่นอะไรพวกนั้นดู หรือบทโหดๆ บทตัวร้าย หรืออะไรแบบนี้ครับ อยากเล่นบท
แบบสุดโต่งแบบนั้น อยากลองเล่น
สิงโต: เหมือนกันเลย เล่นเป็นคนดีมาตลอดแล้วมีความรู้สึกว่าน่าเล่นเป็นตัวร้าย แต่ว่าขอมีเหตุผลนิดนึงครับน่าจะสนุกดี แล้วก็หลักๆ คืออยากเล่นเป็นผี อยากเล่นเป็นผีแบบน่ากลัวๆ ไปเลย (หัวเราะ)
MF: PEBACA WHAT A CONCERT
คริส: ตอนนี้เตรียมตัวกันมาเกินครึ่งทางแล้วครับเหลือแค่ไปซ้อมอย่างเดียว
เราวางเพลงกันได้เกือบครบแล้วประมาณ 80% อาจจะมีบางเพลงที่ต้องแก้เพราะว่าเรื่องของการจัดการลิขสิทธิ์ครับ เพราะว่าที่พวกเราวางกันไว้เรายังไม่ได้คำนึงถึงเรื่องพวกนั้นจนแบบว่าบางทีอาจจะต้องมีเปลี่ยนแปลงนิดๆ หน่อยๆ ครับ แล้วก็ผมเห็นภาพแล้วว่าคอนเสิร์ตจะออกมาหน้าตาเป็นยังไง มวลอารมณ์ ความรู้สึกที่แฟนๆ มาดูแล้วเค้าจะได้รับจะเป็นยังไงครับ รู้สึกว่าตอนนี้มาเกินครึ่งทางแล้ว เพราะฉะนั้นก็เตรียมตัวเจอได้เลยครับ รับรองสนุกแน่นอน
สิงโต: ก็ต้องสารภาพว่าเป็นคอนเสิร์ตที่ผมมีโอกาสได้ทำเรื่องที่ตัวเองไม่ถนัดหลายอย่าง แต่ก็กล้าพูดตรงๆว่าจะพยายามทำสุดฝีมือเหมือนกัน ก็เดี๋ยวพอถึงเวลาพาร์ทที่มันต้องซ้อมรวมกันหลายๆ คน ก็น่าจะแอบปล่อยเบื้องหลังให้ทุกคนได้เห็นอยู่บ้าง
MF: พูดถึงเรื่องแฟชั่น ปกติสไตล์การแต่งตัวเป็นยังไง
คริส: ปกติเป็นคนแต่งตัวแนวแนวสปอร์ตๆ หน่อยนะเท่าที่สัมผัสจากตัวเองอย่างเช่นเวลาเราซื้อนาฬิกา หรือว่าเวลาเราซื้อรองเท้า หรือซื้อเสื้อผ้าเอง จะออกแนวเป็นแบบสปอร์ต จะไม่ค่อยเป็นคนติดแบบ Luxury มาก ชอบใส่กางเกงขาสั้น ชอบใส่เสื้อเชิ้ต เพราะฉะนั้นมันก็จะไม่ได้เป็นทางที่แบบว่าไม่ได้เป็นคนแต่งตัวแนวหรูหราอะไรครับ ค่อนข้างชอบอะไรที่เป็นวินเทจมากๆ เสื้อยืดตัวเดียว
แต่แบบเป็นเสื้อที่แบบมีลวดลายเยอะๆ จริงๆ ชอบแต่งทั้งขาวดำและสีสันเลย รู้สึกว่าสีที่เข้ากับตัวเองมากๆ คือสีแดง สีเหลือง สีเขียว ค่อนข้างหลากหลายเกี่ยวกับการแต่งตัว แต่ว่าจะไม่ค่อยชอบแบบหรูมากๆ เว่อร์มากๆ ครับ
สิงโต: ส่วนใหญ่เน้นความสบาย สบายที่หมายถึงว่าจะพยายามแต่งตัวให้ไม่รัดรูปจนเกินไป เมื่อก่อนชอบใส่ขาเดฟมาก แต่ว่าหลังๆ อาการแพ้เหงื่อค่อนข้างหนักขึ้นก็เลยต้องใส่อะไรที่มันโปร่งมากขึ้น ก็หลังๆ มาจะใช้พวกกางเกงขาดๆ หรือว่ากางเกงที่แบบว่าไม่รัดรูปจนเกินไปครับ แล้วก็สไตล์การแต่งตัวผมค่อนข้างเรียบ เสื้อยืดเพลนๆ ขาวดำ กางเกงยีนส์ สลับกันไป หลังๆ มาจะใส่กางเกงยีนส์ซะเยอะ
MF: ไอเท็มที่ขาดไม่ได้
สิงโต: ของผมไม่ค่อยมีนะ แต่ว่าส่วนใหญ่ถ้าเป็นเครื่องประดับ ผมจะใส่ต่างหูตลอด แทบจะไม่ค่อยเห็นผมไม่ใส่ต่างหู เหมือนเป็นไอเท็มที่แบบติดตัวอยู่ตลอด แล้วก็นอกนั้นก็ไม่ค่อยมีอะไรนะครับ ก็มีแบบกระเป๋า กระเป๋าข้างๆ ตัวจะสะพายตลอด ข้างในนั้นก็จะมีของนู่นนี่นั่นเต็มไปหมด
คริส: iPad ครับ เพราะว่าติดดูการ์ตูนมาก ติดดู YouTube มาก ตามติดชีวิตยูทูปเบอร์หนักมากครับ ก็เลยแบบว่าต้องมี iPad ตลอด เพราะว่าชอบดูจอใหญ่ๆ เวลาไปฟิตเนส เวลาไปวิ่ง ถ้าลืม iPad นี่ต้องกลับไปเอาเลยเพราะว่าจะชอบแบบเดินไปด้วยแล้วก็เอา iPad ตั้ง แล้วก็ดูไปเรื่อยๆ มันทำให้เราแบบอยู่บนลู่วิ่งได้แบบชั่วโมง สองชั่วโมงได้ไม่เบื่อ แล้วก่อนนอนก็จะต้องเปิดอะไรทิ้งไว้รู้สึกว่าเป็นคนติด iPad มากครับ
สิงโต: มากครับ มากจริง เพราะขนาดเล่นเกมยังใช้ iPad คนปกติเขาเล่นเกมมือถือกัน
MF: ขอ 1 เรื่องหรือ 1 ช่องที่ดูเป็นประจำ
คริส: ส่วนใหญ่จะชอบดูแคสเกมครับ ดูหมดเลย กายหงิด PRIMKUNG SkizzTv ดูเยอะมากครับ ใจร้าว หรือว่าจะเป็นแบบ อนันต์เป็ด แก๊งนี้ดูหมด ดูครบทุกอันเลยครับ คือไม่ได้ดูคลิปสองคลิปนะ ผมดูครบทุกคลิปเลยอะ คือเขาทำมา 7 – 8 ปี ผมดูเกลี้ยงเลย รอตลอดว่าเมื่อไหร่จะมีคลิปที่เรายังไม่ได้ดูโผล่มาอีก
MF: ฝากผลงาน
คริส: อยากฝากสองอันเลยครับ อยากฝากทั้งคอนเสิร์ต PEBACA ด้วย ก็คือจริงๆ ตอนนี้ บัตร Sold Out เรียบร้อย แต่ว่าทุกๆ คนที่ไม่มีบัตรก็สามารถซื้อบัตรไลฟ์สตรีมมิ่งได้นะครับ แล้วก็เดี๋ยวไปเจอกันในวันที่ 22 มีนาคมครับ พี่สิงฝากซีรีส์แล้วกันครับ (หัวเราะ)
สิงโต: ก็ขอฝาก The Ex-Morning หน่อยนะครับผม คิดว่าช่วงเวลาของการออนของซีรีส์น่าจะอยู่วันที่ 19 เมษายนนะครับผม ก็ฝากด้วยนะครับ The Ex-Morning เป็นซีรีส์เรื่องแรกหลังจากที่ คริสกับสิงโต ไม่ได้เล่นซีรีส์ร่วมกันมา นานพอสมควรเหมือนกัน 7 – 8 ปีได้แล้ว ก็อยากฝากทุกคนด้วยนะครับ อยากให้ทุกคนดูว่าความตั้งใจของพวกเราสองคนมันจะทัชใจทุกคนได้เหมือนซีรีส์เรื่องแรกหรือเปล่า
