Racing Up the Love –  ปอร์เช่-ศิวกร อดุลสุทธิกุล

ภายนอกดูแข็งแกร่ง ภายในอ่อนไหวแบบศิลปินตัวจริง นั่นคือตัวตนที่เราได้สัมผัสจากบทสนทนาระหว่างเราและ ปอร์เช่-ศิวกร อดุลสุทธิกุล  แห่ง TRINITY ที่นับวันก็เสน่ห์เฉพาะตัวของเขาก็ยิ่งล้นเหลือ ความคิดก็เติบโตขึ้นตามประสบการณ์ชีวิต ในช่วงเดือนที่หลายคนเริ่มจะ in the mood for love เราจึงขอวอร์มจังหวะหัวใจให้แรงขึ้นไปกับเขาคนนี้ 

MF : เข้าสู่เดือนแห่งความรักแล้ว อยากรู้ว่า ประสบการณ์โรแมนติกที่สุดที่ปอร์เช่เคยสัมผัสคือเหตุการณ์ไหน

PORSCHE : ถ้าเรื่องความรักแบบหนุ่มสาว น่าจะไม่มีครับผม ถ้าเกิดเป็นโรแมนติกที่สุด ผมรู้สึกว่าตอนเราเล่นคอนเสิร์ตครบรอบ 4 ปี TRINITYไปกับ TWILIGHT ‘2023 TRINITY BREATH OF DESIRE CONCERT’ เหมือนเราได้ฉลองครบรอบไปด้วยกัน ถ้าเกิดมองในมุมโรแมนติกก็โรแมนติกดีครับ เพราะเราให้ความสุขเค้า เค้าก็ให้ความสุขเรากลับมา

MF : แต่งเพลงรักบ่อยไหม

PORSCHE : ไม่บ่อยครับ แต่เวลาเสพเพลงผมรู้สึกว่า เพลงรักมันแต่งง่าย เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวทุกคน แต่สำหรับผมเอง ผมจะไม่ได้แบบแต่งเสร็จทั้งเพลง ผมจะเริ่มจากดนตรีก่อน บางทีเนื้อเพลงไม่ได้เกี่ยวกับความรักเลยครับ แต่ปลายทางแล้วพลิกแพลงได้ตลอด สมมติ ตอนนี้เรารู้สึกอย่างนี้ พออีกสามอาทิตย์กลับไปแล้วแบบมันอาจจะไม่เข้าหรือเปล่า ก็เลยเปลี่ยนเป็นเพลงรักอาจจะเข้ากว่า 

MF : เคยแต่งเพลงมอบให้คนที่เรารู้สึกดีด้วยหรือตั้งใจให้เป็นของขวัญคนพิเศษไหม

PORSCHE : ที่จริงมีเพลงของ TRINITY แต่งให้ทุกคน ไม่ใช่แค่แฟนๆ รู้สึกว่าเพลง ‘THANK YOU ALL’ เป็นเพลงที่สื่อให้กับทุกคนว่า ให้ทุกคนขอบคุณตัวเองที่ผ่านมาในปีนี้ ไม่ว่าจะเจออะไรก็ตาม

MF : เวลาเจอคนที่เรารู้สึกชอบอาการของเราเป็นยังไง

“เริ่มจากการปลื้มก่อน น่าจะอยากเห็นหน้าเค้าบ่อยๆ เค้าทำให้เราใจเต้นหรือตื่นเต้น อะไรประมาณนี้ครับ แต่ปกติผมก็ไม่ค่อยชวนผู้หญิงคุยอยู่แล้วครับ ผมไม่อยากมันเป็นเรื่องครับ (หัวเราะ) เพราะสังคมเดี๋ยวนี้เป็นสังคมที่รวดเร็วมาก” 

MF : เคยอกหักไหม หรือเคยหักอกคนอื่นไหมถ้าอกหักมีวิธี move on ยังไง

PORSCHE : ผมว่า หลายคนน่าจะมีประสบการณ์แบบว่า Puppy Love หรืออาจจะเคยมีแฟนมาก่อน ผมก็เคยมีเหมือนกัน Puppy Love เนี่ย

       ส่วนเวลาอกหัก move on เร็วมั้ยหรอครับ ก็ทำความเข้าใจกับมัน ผมรู้สึกว่า ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิตครับ สังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยงด้วยครับ อะไรเกิดขึ้นได้ และไม่มีทางอยู่ได้ตลอดไป เพราะทุกอย่างมีกาลเวลาของมันเราต้องเข้าใจ ‘ธรรมชาติของจักรวาล’ ทุกอย่างที่มันมีมาเดี๋ยวมันก็หมดไป แต่สุดท้ายมันก็กลับกลายเป็นแค่ความทรงจำดีๆ ครับ 

MF : ว่ากันว่าคนที่เป็นศิลปินจะค่อนข้าง sensitive เป็นพิเศษปอร์เช่เป็นไหม

PORSCHE : สำหรับผม ผมเป็นนะครับ sensitive กับรับอารมณ์ข้างนอกได้ง่าย เวลาเจอเรื่องอะไรแบบจะฟีลง่ายกว่า ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน …ผมคิดว่าหลายๆ คนอาจจะคิดว่า ทำดีที่สุดแล้ว  พอโดนติมา สิ่งที่เราทำมันไม่ดีหรอ แล้วพวกเราทำงานโดยใช้ความรู้สึกในการปลดปล่อยออกมาเป็นผลงานน่ะครับ แล้วพอความรู้สึกเราโดนติ ก็จะกลายเป็นเรื่อง personal หน่อย เพราะเราใช้อารมณ์ตัวเอง เลยแบบเสี่ยงนิดนึงในการเป็นศิลปิน เพราะว่ามันมีหลายๆ คนที่คอยจับจ้องจะติเรา

MF : อย่างนี้อ่านคอมเม้นต์บ้างไหม หรือไม่อ่านดีกว่า

PORSCHE : อ่านบ้าง ผมจะอ่านอันที่มันดูเป็น constructive criticism อะครับ อันที่แบบติที่เข้าใจได้ ไม่ใช่ติเพื่อแบบอยากด่าอย่างเดียว แต่ก่อนอ่านบ่อย แต่พอกลับมาดูตัวเองก็ไม่รู้จะอ่านไปทำไม เพราะว่ามันไม่ได้มีผล เพราะว่าเขาติเสร็จก็ไปติคนอื่นต่อ (หัวเราะ)  

MF : คอมเม้นต์หรือฟีดแบ็คอันไหนที่อ่านจากแฟนๆ แล้วได้กำลังใจดีๆได้พลังความรักกลับมา

“ชอบทุกคอมเม้นต์ แต่ส่วนตัวผมชอบอันที่บอกว่า ผลงานเราเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เค้าเติบโตขึ้นได้ ผ่านเรื่องแย่ๆ มาได้ เพราะผลงานพวกเรา เค้าใช้ผลงานพวกเราในการเป็นกำลังใจ เลยชอบเป็นพิเศษครับ”

MF : ดูเป็นคนอินกับเรื่องเพลงมากๆอยู่แล้วนอกจากเรื่องเพลงหนังซีรีส์รักโรแมนติกดูบ้างไหม

PORSCHE : มีบ้างครับแต่ไม่ได้โฟกัสมากครับ ผมจะอินกับพวกความสัมพันธ์ครอบครัวมากกว่าครับ สมมติว่าแบบเราดูซีรีส์แล้วน้ำตาไหล จะเป็นเรื่องที่แบบว่า สมมติเรื่องมันแฟนตาซีจัด เป็นพี่น้องที่ไม่เคยเจอกันมานานอะไรแบบนี้จะอินมากกว่าซีรีส์รัก เพราะผมคิดว่า เรื่องรักมัน relate กับชีวิตจริงได้ครับ ถ้าเกิดเป็นแฟนตาซีที่มีเรื่องความรักเหรอ ขอยกตัวอย่างเรื่อง Hotel Del Luna ได้ไหมครับ ผมจะอินในความสัมพันธ์ของคู่พี่น้องสุด

MF : ถ้าให้เลือกระหว่าง Lucky in Game กับ Lucky in Love จะเลือกอะไร

PORSCHE : มันมีข้อดีกับข้อเสียต่างกันครับ คือผมอ่านมาหลายๆคนที่แบบว่าประสบความสำเร็จ เค้าจะต้องมีคนที่เป็นแบบกำลังใจ หรือเป็นคู่ที่พากันไปให้ดีขึ้นได้ เลยแบบเลือกทั้งสองอย่างไม่ได้

“แต่ถ้าให้เลือกสักอย่างคงเป็น Lucky in Game เพราะถ้าเกิดเราทำให้ตัวเองสบายได้ อนาคตเราก็ทำให้เค้าสบายได้ครับ “

MF : ถ้าเกิดมีคนพิเศษอยากพาไปเที่ยวไหน

PORSCHE : ทะเลครับ ภูเขา ธรรมชาติ อยากไปที่อากาศดีๆ ผมรู้สึกว่าโลกนี้มันค่อนข้างวุ่นวาย อากาศก็ไม่ค่อยดี หายใจก็ยาก เลยอยากพาไปที่แบบอากาศโล่งๆ เผื่อมันจะทำให้เราปลอดโปร่งในสมอง เค้าอาจจะได้สบายใจมากขึ้น

MF : ให้บอกอะไรกับแฟนๆ นิดนึงหรือให้ TWILIGHT ที่คอยให้กำลังใจเรามาตลอดหน่อย

PORSCHE : สำหรับ TWILIGHT ทุกคนที่ให้กำลังใจเรา ผมรู้สึกถึงความพยายามที่เค้าตั้งใจมาหาเรามาก แล้วเราก็รู้สึกดีมากๆ ที่เราได้เจอเค้า ได้พูดคุยกับเค้า ได้อัพเดทชีวิตกัน  ผมรู้สึกว่า ช่วงเวลาที่เราเจอเค้า เป็นช่วงเวลาที่หายเหนื่อยทุกอย่าง เป็นช่วงเวลาที่เราได้รับความรักจากเค้า แล้วเค้าก็ได้รับความรักและความสุขจากพวกเราไปเหมือนกัน หรือไม่ว่าชีวิตเค้าจะเจออะไรมาก็ตาม เค้าก็มาเล่าให้เราฟัง และเค้าก็บอกเราว่า ขอบคุณที่พวกเราเป็นกำลังใจให้เค้า หรือว่าทำให้เค้าได้มีความสุขในการใช้ชีวิตต่อไปได้ 

         “ขอบคุณมากๆ ที่รักที่เราเป็นเรา รักในผลงานพวกเรา รักสิ่งที่เราทำ เราไม่รู้ว่าผลงานเราจะอยู่ได้อีกยาวให้เค้าได้ชอบหรือเปล่า แต่ว่า ณ โมเม้นต์นั้นที่เราคุยกัน มันคือโมเม้นต์ที่ทำให้เรารับรู้ว่า ผลงานที่เราทำมันประสบความสำเร็จ ขอบคุณมากๆครับ”

MF : สุดท้ายปอร์เช่มองว่า ความรักคือ…

PORSCHE : ความรัก คือ การให้โดยที่เราไม่ได้หวังอะไร ให้ด้วยความรู้สึกดี เจตนาดีครับ