ฮอตอย่างต่อเนื่องมาหลายปีและปี 2024 นี้ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีดีๆของ
แจ๊คกี้-จักรินกังวานเกียรติชัยแห่ง TRINITY เพราะภายหลังจากเข้ารับใบปริญญาจากรั้วมศว. ประสานมิตรไปเรียบร้อยปีต่อไปเขาคงได้เดินหน้าทำงานเพลงและได้เปิดโอกาสใหม่ๆในการรับงานหลากหลายรูปแบบยิ่งขึ้นนั่นเป็นสัญญาณว่าศิลปินหนุ่มที่ดูเหมือนจะขี้อายจัดๆคนนี้กำลังจะได้ปลดล็อกตัวตนและปล่อยของอย่างเต็มรูปแบบ
เรานั่งลงคุยกับข้างโต๊ะกินข้าวหลังการถ่ายแบบเสร็จสิ้น แจ๊คกี้สลัดมาดนายแบบมืออาชีพหน้าเซ็ตมานั่งตอบคำถามเราแบบชายหนุ่มคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความฝัน เขาอัพเดทชีวิตช่วงโค้งสุดท้ายของปีให้ฟังว่า
“ช่วงนี้ผมกำลังอินเรื่องการทำเพลง เรื่องการทำงานเบื้องหลังครับ เริ่มศึกษาแล้วว่า สมมติถ้าเราต้องทำเพลง เริ่มเป็นคนคิดไอเดียเอง เราต้องทำยังไงบ้าง”
ปีที่ผ่านมาหนึ่งความสำเร็จครั้งใหญ่ที่เขาภาคภูมิใจย่อมเป็นการเรียนจบภายใน 4 ปี ตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายกับการทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย แต่ถ้าบริหารจัดการเวลาได้ดีก็ไม่เป็นปัญหา
“จนถึงตอนนี้ผมเหมือนเริ่มเข้าสู่อีกขั้นหนึ่งของชีวิตแล้ว ผมต้องเข้าสู่ชีวิตการทำงานแบบเต็มตัว ก็เลยคิดว่าอันนี้น่าจะเป็นความสำเร็จที่เป็นจุดเริ่มต้นของผมครับ”
แต่ในปีที่ผ่านมาผลงานที่ทำให้มีแรงใจทำงานดีๆ ต่อไปที่สุดคงเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ที่อิมแพ็ค อารีน่า
“ผมภูมิใจกับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของ Trinity ที่อิมแพ็ค อารีน่า เพราะงานนี้เคยถูกยกเลิกไปด้วยโควิดฯ แล้วพอได้กลับมาจัด เหมือนแฟน ๆ ทุกคน ก็รอคอย เราก็ได้แสดงศักยภาพที่เราเตรียมมาทั้งหมดมาโชว์ เลยรู้สึกภูมิใจมากครับ”
ส่วน New Year’s Resolution ปีที่ผ่านมาเขาทำสำเร็จไหมน่ะเหรอ…เอาเป็นว่า ให้ผลงานพูดแทนก็แล้วกัน
“ความจริงสิ่งที่ตั้งเป้าไว้ในปีที่ผ่านมา ก็คือการได้ไปทัวร์ต่างประเทศ ซึ่งผมก็ได้ไปเล่นเฟสติวัลต่างประเทศครั้งแรก และได้ไปหลากหลายประเทศมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานคอนเสิร์ต หรือว่างานอีเวนต์ เราได้ออกไปนอกประเทศเยอะมาก ไปทั้งเวียดนามในงาน Seen Festival ในประเทศเวียดนาม แล้วก็มีที่มาเลเซีย ส่วนงานที่ฟิลิปปินส์เป็น Fan Meet แล้วก็มีคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นงาน BATTLE OF TOKYO ซึ่งเป็นงานใหญ่มาก ๆ เหมือนเป็น stage ที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตแล้ว จัดขึ้นที่ไซตามะกับโอซาก้า ดีใจมาก ๆ เลยครับที่ปีนี้ได้ออกไปทัวร์ต่างประเทศ”
นั่นแสดงว่า เขาได้เข้าใกล้ความสำเร็จไปอีกขั้นตามนิยามความสำเร็จที่เขาเผยให้เราฟังว่า
“ความสำเร็จสำหรับผมรู้สึกว่ามันคือการตั้งเป้าหมายไว้เพื่อเป็นแรงผลักดันให้เราได้เดินตามเป้าหมาย เหมือนแพลนที่ปกติเราจะต้องวางไว้อยู่แล้ว”
แสดงว่า เป็นคนชอบวางแผนล่วงหน้าสินะ เราเดา
“ก็ชอบนะครับ รู้สึกว่า ถ้าชีวิตเราไม่มีแพลนมันจะออกไปไหนไม่รู้ หมายถึง เราตั้งแพลนที่กว้าง ๆ ไว้ แล้วระหว่างทางจะเจออะไรก็แล้วแต่ ก็ถือเป็นประสบการณ์ของเรา ความจริง goal มันไม่จำเป็นจะต้องมีแค่อย่างเดียว รู้สึกว่า goal มันตั้งไว้กี่อย่างก็ได้ แต่ขอให้เรามองภาพให้ชัดว่าเราจะทำสิ่งนี้ให้ได้ ถ้าสมมติว่า ใจเราคิดแล้วว่า เราจะทำสิ่งนี้ให้ได้ มันก็จะทำให้ได้ แต่ถ้าสมมติว่าเริ่มแรกเราคิดว่าเราทำไม่ได้แน่นอน มันก็จะตันอยู่แค่นั้น”
ว่ากันว่าเด็ก Gen Z แบบตรงรุ่นอย่างเขาอยากได้ shortcut สู่ความสำเร็จกันทั้งนั้น ตัวเขาเองเป็นเหมือน sterotype อย่างที่ใครๆ ตีกรอบหรือเปล่า เราโยนคำถามให้เขาครุ่นคิด
“ผมว่าใคร ๆ ก็อยากประสบความสำเร็จเร็วหรือเปล่า อันนี้ผมไม่รู้ แล้วแต่คนมั้ง” เขาตอบตรงๆ อย่างที่ใจคิดก่อนจะขยายความต่อว่า ด้วยต้นทุนชีวิตที่ต่างกัน ความสำเร็จที่แต่ละคนมองอาจจะอยู่คนละจุดก็เป็นได้
“แต่สำหรับตัวผมเองไม่กดดันว่าจะต้องประสบความสำเร็จเร็วนะครับ ผมว่า แค่เราทำเต็มที่กับปัจจุบัน ให้มัน flow ได้ดีที่สุด แล้วทุกอย่างมันจะดำเนินไปตามธรรมชาติ”
และ shortcut ที่จะทำให้เขาได้สัมผัสความสำเร็จได้เร็วขึ้นคงจะเป็นความสุขในการทำในสิ่งที่ตัวเองรัก
“ก็แค่หาสิ่งที่ตัวเองรักให้เจอ แล้วทำในสิ่งที่เราชอบจริง ๆ ไม่ใช่แค่ชอบตามเทรนด์ ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าผมชอบร้องเพลง ชอบการอยู่บน stage มาก การได้อยู่ตรงนั้นมันมีความสุขมากครับ”
โชคดีอย่างหนึ่งของศิลปินหนุ่มคนนี้ คือการที่เขาค้นพบสิ่งที่ชอบตั้งแต่เด็ก นั่นคือ การร้องเพลง จากเด็กที่เคยมองพี่ตูน Bodyslam เป็นไอดอล เคยฝันอยากเป็นได้อย่าง Big Bang วันนี้แจ๊คกี้-จักริน อาจจะไม่ได้ยึดใครเป็นแบบอย่าง แต่ถึงอย่างไรเขาก็มองว่า การยึดใครสักคนเป็นแบบอย่างก็เป็นแรงผลักดันที่ดี
“ทุกวันนี้ผมมองว่า การมีไอดอลไม่จำเป็นแล้ว เราเป็นไอดอลให้ตัวเราเอง แต่ถ้าเป็นตอนเด็กๆ เรามองความสำเร็จที่คนที่เราชื่นชมได้รับมาเป็นแรงผลักดันให้เราได้ทำในสิ่งที่ดีขึ้นได้ ทุกวันนี้ผมก็พัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ นึกภาพว่า ตัวเองในอนาคตจะเป็นยังไง แล้วก็เราจะเป็นให้ได้แบบนั้น”
ซึ่งภาพที่เขามองเห็นตัวเองในอนาคตอย่างชัดเจนก็คือ
“ผมน่าจะเห็นภาพตัวเองเป็นศิลปิน on stage ในต่างประเทศ ไปเจอผู้คนมากมาย มีคอนเสิร์ตใหญ่ที่อิมแพ็ค ขอตั้งเป้าไว้ประมาณนี้ก่อนครับ”
ในฐานะที่ตัวเขาเองคงเป็นไอดอลให้กับหลายๆ คน ถ้าหากมีคนมาขอให้แจ๊คกี้เป็น life coach แนะนำสูตรลับสู่ความสำเร็จเขาจะให้ความแนะนำว่าอย่างไร โค้ชแจ๊คกี้ตอบว่า
“ผมก็จะบอกว่า ถ้าสมมติว่าเขามองผมว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ มันเรียกว่าประสบความสำเร็จแล้ว ผมว่าไม่ใช่ ผมกำลังเดินทางอยู่ในขั้นตอน on process อยู่ มันยังไม่ได้ประสบความสำเร็จนะ แล้วผมว่า ต้องอย่าปิดกั้นตัวเอง ให้ตัวเองได้ลองทำอะไรที่อยากทำจริง ๆ พยายามหาโอกาสให้ตัวเอง และรักตัวเองให้มาก ๆ”
Editor in Chief and Fashion Director @telm_daneenart
Fashion Editor @dome_sweet_dome
Photo @johntods
Makeup @kwankhaosml
Hair @guide.shw
Clothes @palmangels , @off____white
Sneakers @hoka_th