กรีน Ezqelusia นักกีฬา E-Sport ได้แบ่งปันเส้นทางการเข้าสู่วงการเกมที่เริ่มต้นจากความสนุกและความชื่นชอบ
จนกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จทั้งในระดับประเทศและระดับโลก พร้อมพูดถึงความท้าทายที่ต้องเผชิญ
ทั้งความกดดันในการแข่งขันและการจัดการกับความผิดหวังที่เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาตัวเอง
และการยืนหยัดในวงการ E-Sport ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
MF: แนะนำตัวกับชาว Men’s Folio Thailand
กรีน: สวัสดีครับ กรีน – วสุ สุรภากรนิธิ ชื่อในวงการเกมคือ Ezqelusia ครับ
MF: ที่มาของชื่อ Ezqelusia
กรีน: มาจากที่เราไม่อยากได้ชื่อที่ซ้ำใครก็เลยไปคุยกับรุ่นพี่ที่เขาจะเป็น
แก๊งสเตอร์ ฮิปฮอป เราก็ให้คอนเซ็ปต์พี่เขาไปว่าขอชื่อที่ไม่เหมือนใครเลยไม่ต้องมีความหมายก็ได้แต่เป็นชื่อที่ไม่คิดว่าจะมีใครตั้งก็เลยได้ชื่อนี้มาซึ่งก็ตรงกับ
คอนเซ็ปต์์เพราะว่าพอเราไปอยู่ในเวทีระดับประเทศหรือระดับโลกก็ไม่ค่อยเห็นคนที่มีชื่อคล้ายกันครับ
MF: ทราบมาว่าเมื่อก่อนคุณกรีนเล่นเกมหนักมาก อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้เข้าสู่วงการ E-Sport
กรีน: ด้วยความที่ผมอยู่ในเจนแรก คือในสมัยก่อนเวลาแข่งเกมมันจะเป็นการแข่งในร้านเกมพอแข่งชนะมันก็จะได้เล่นเกมฟรีไต่ระดับไปเรื่อยๆ ซึ่งในวงการเกมเมื่อก่อนมันยังไม่ได้กว้างเหมือนทุกวันนี้ อย่างมีทัวร์นาเมนต์หรือมีอะไรที่เป็นหลักเป็นแหล่งซึ่งสมัยก่อนเราค่อยๆ ไต่ขึ้นมาแต่แค่เรารู้สึกว่าเราแพ้คนไม่เป็นอยากจะเอาชนะเขาก็ทำให้เรารู้สึกว่านี่แหละคือจุดเริ่มต้นทำให้เราเข้ามาในวงการ E-Sport พอเราไปแข่งครั้งแรกแล้วแพ้ก็กลับมาฝึกให้มันเก่งขึ้นแล้วก็กลับไปแข่งใหม่ พอกลับไปชนะก็ไม่ได้เงินอะไรแค่ได้เล่นเกมฟรี แต่เพราะเราอยากจะแข่งขันก็เลยเป็นจุดเริ่มต้น จุดเริ่มต้นจริงๆ คือพอเราแข่งแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราก็ยิ่งมีคนรู้จักมากขึ้นในวงการ ซึ่งเมื่อก่อนวงการมันแคบก็ค่อยๆ ไต่ขึ้นมาจนเรามีโอกาสได้แข่งเกมจริงๆ เงินรางวัลแชมป์ 2,000 บาท ก็เป็นเงินรางวัลในยุคแรกๆ
MF: จำได้ไหมว่าเกมแรกที่คุณเริ่มเล่นจริงจังคือเกมอะไร และเพราะอะไรถึงเลือกเกมนั้น
กรีน: Special Force ครับ ถ้าเป็นคนในโลกเกมออนไลน์จะรู้จักอยู่แล้ว แต่ถ้าชื่อเสียงในการแข่งขันจะเป็นเกม A.V.A ครับ ตอนนั้น Special Force เราจริงจังมากแล้วแต่ว่าเรายังไม่เก่งเรามาเริ่มเก่งจริงๆ คือตอนเล่นเกม A.V.A
MF: คุณกรีนเป็น Streamer ด้วย จุดเริ่มต้นมาจากอะไร
กรีน: คือต้องบอกว่า Streamer เนี่ยคือมายุคหลัง ผมเล่นเกมเพราะชอบเล่นเกมเฉยๆ พอมีโอกาสเข้ามาก็เลยได้มาเป็นนักกีฬา E-Sport ส่วน Streamer เราแค่เล่นเกมไปเรื่อยๆ แล้วอยู่ดีๆ ก็มีโอกาสวิ่งเข้ามา
MF: อยากให้คุณกรีนเล่าโมเมนต์ที่ดีที่สุดตั้งแต่แข่งขันมา
กรีน: ดีที่สุดคือการที่เราได้รับชัยชนะกลับมา ถ้านับว่าเป็นปรากฏการณ์ก็จะเป็นยุคของ MiTH กำแพง เกิดจากผู้เล่น 4 คนที่ไม่เชิงว่าเก่งที่สุดในประเทศแต่เป็นคนที่ลงตัวที่สุดและสนิทกัน คนนึงเป็น Streamer สายนึง อีกคนก็เป็น Streamer อีกทางนึง คุยกันไปคุยกันมาก็ได้มาเป็นทีมเดียวกันแล้วดันทำสำเร็จเพราะเราถูกข้อครหาว่าไลน์อัพเซ็ทนี้น่าจะไม่ได้แชมป์ประเทศแต่พอไปเล่นจริงๆ มันไม่เป็นอย่างที่คิด สุดท้ายพอถึงวัน Final เราก็ทำได้และได้บินไปเกาหลี ซึ่งตั้งแต่เหตุการณ์นั้นชีวิตก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ที่บอกว่าไม่เหมือนเดิมเพราะว่าตัวผมมีโอกาสได้ไปรับรางวัลพรมแดงของ M Thai ที่ดาราเยอะมากๆ ซึ่งเราเป็นแค่เด็กเล่นเกมขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีก็เลยทำให้เรารู้ตัวว่าจุดนั้นทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตมันไม่เหมือนเดิม เราภูมิใจนะ และเราก็ดีใจที่มีแฟนคลับมาต่อแถวขอถ่ายรูปกับเรามากขึ้น จนมันกลายเป็นเหมือนความปลื้มปริ่ม เป็นความสุข
MF: ในช่วงระหว่างแข่งขันเรื่องของความยาก ความกดดัน คุณกรีนจัดการกับมันยังไง
กรีน: คือนักกีฬาส่วนใหญ่สมัยนี้คนมักจะมองในเรื่องของการประสบความสำเร็จต้องทำยังไงแล้วก็รวมถึงทำยังไงถึงจะเก่ง ซึ่งผมมองว่าจุดนี้มันง่ายมากขึ้นเพราะมีรูทีนของนักกีฬาต่างๆ ให้เห็นเวลาฝึกซ้อมทั้งออนไลน์ในยูทูปอะไรแบบนี้ แต่ว่าสิ่งที่นักกีฬาหลายๆ คนมองข้ามทุกคนต้องเจอและประสบคือจะหาวิธีคิดยังไงให้อยู่กับความผิดหวังได้ ซึ่งจากที่ผมแข่งมาจากวันนั้นถึงวันนี้ผมได้รับโจทย์นี้มา ทำให้ผมรู้ว่าจริงๆ แล้วการเป็นนักกีฬา E-Sport เนี่ยแน่นอนว่า Achievement ของการได้เป็นแชมป์คือเป้าหมายของทุกคน แต่สิ่งที่ยากยิ่งกว่าคือการที่เราจะจัดการกับความรู้สึกตัวเองทุกครั้งที่ผิดหวัง เพราะกีฬายังไงก็มีความผิดหวังเป็นเรื่องปกติ อย่างผมต้องบอกว่าผมคือ 1. โชคดีด้วยตัวเองจากประสบการณ์ที่ผ่านมา 2. เราเห็นน้องๆ รู้สึกแย่เราก็ต้องช่วยน้องๆ แต่สิ่งที่มันมาช่วยผมจริงๆ คือนักจิตวิทยาเขาจะมาแทรกซึมคอยสอนเราให้เรารู้ว่าถ้าร่างกายเราเป็นแบบนี้แปลว่ามันเครียดเกินไปให้เราทำแบบนั้นแบบนี้เพื่อจัดการอารมณ์ตัวเองให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น ทำให้เราเห็นภาพกว้างมากขึ้น ผมมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายคนมองข้ามและเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องได้เจอและถ้าทำได้จะเป็นนักกีฬา E-Sport ที่ยืนระยะและรับมือกับตัวเองได้ดีมากๆ เลยครับ
MF: ตำแหน่ง Pro Player ที่หลายๆ คนมอบให้
กรีน: ผมไม่อยากนิยามตัวเองว่าเป็น Pro Player แต่เข้าใจว่าด้วยการที่เราแข่งเกมมา 15 ปีแล้ว มันเป็นคำที่เรารู้สึกว่าเขาเห็นเราเป็นนักกีฬาเราต้องทำอะไรสักอย่างให้เขาเห็น ผมว่าผมไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรเพราะสิ่งที่เราทำมันเหมือนนักกีฬาจริงๆ เช่นการตื่นนอน การรับผิดชอบรูทีนตัวเอง การฝึกฝนหรือการฝึกซ้อม หน้าฉากต่างๆ ที่เราได้แสดงออกไปในวงการมันทำให้เขาตัดสินทันทีว่าเราคือนักกีฬา E-Sport มันไม่ใช่ว่าเขามามองเราเพราะเราทำสำเร็จ คือเราอยู่ในวงการมา 15 ปีแล้วเขาต้องเห็นว่าเราทำอะไรมาบ้างเขาถึงกล้าเรียกเราแบบนี้ ก็เลยรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ หลายๆ คนมาพูดมาบอกเราเราก็เลยต้องยอมรับแล้วว่าเราคือนักกีฬา
MF: คิดยังไงกับประโยค “เด็กติดเกม”
กรีน: จากตอนนั้นจนตอนนี้มันก็ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเลยครับ เพราะว่าถ้าถามว่าเด็กติดเกมภาพของคนที่มองเป็นลบก็จะมองลบเสมอไป ครอบครัวผมก็เหมือนกันนะ ไม่ได้มองเกมเป็นเรื่องลบหรอกแต่ว่าสิ่งที่เราได้จากเกมมันมีเรื่องลบมากกว่าบวกในสมัยก่อน แต่เราก็มีมุมที่เหมือนกับโชคดีด้วยเพราะ
สมัยก่อนโอกาสมันน้อย แล้วโอกาสเล็กๆ นั้นเราก็คว้ามาไว้ได้แล้วทำให้เขาเห็น ทุกวันนี้เวลามีน้องมาปรึกษาอะไรต่างๆ เรื่องคำว่าเด็กติดเกมผมได้แต่พูดว่าถ้าเอ็งยังเรียนอยู่ก็โฟกัสเรื่องการเรียนให้เต็มที่ลองแบ่งเวลาส่วนนึงมาจัดการตรงนี้ คือเราไม่รู้หรอกว่าวงการเกมใครจะประสบความสำเร็จ โอกาสจะวิ่งเข้ามาหาใครบ้างเพราะโอกาสที่จะเข้ามาถึงเรามันน้อยมาก แต่ถ้าโอกาสมันเข้ามาถึงเราแล้วก็อยากให้คว้าไว้แล้วก็ทำมันให้เต็มที่ พอสุดท้ายแล้วเราทำได้ผลงานตรงนี้มันจะพิสูจน์ให้กับครอบครัวได้เห็น แต่ถ้ามาพูดกับภาพกว้างแน่นอนว่าเด็กติดเกมทุกวันนี้สามารถสร้างรายได้ให้หลายคนแล้วไม่ใช่แค่กลุ่มคนเล็กๆ มันถึงขั้นสร้างบ้านสร้างรถปิดหนี้สินให้กับครอบครัวได้ ในมุมมองผมถ้าสมัยก่อนกับสมัยนี้มันต่างกันตรงที่มีคนประสบความสำเร็จเยอะมากแล้วในวงการเกมครับ
MF: คำแนะนำสำหรับคนรุ่นใหม่จะเข้าสู่วงการนี้
กรีน: เมื่อก่อนผมอาจจะตอบอีกแบบแต่วันนี้ผมได้ไปเจอตัวเองในเวอร์ชั่นใหม่มา ผมรู้สึกว่าถ้าวันนี้จะบอกว่าเรารวมถึงตัวผมด้วยมันเริ่มต้นจากความสนุกผมไม่ได้คิดว่าตัวเองจะต้องเป็น Streamer จะต้องเป็นนักกีฬา E-Sport หรือเป็นอะไรต่างๆ ในวงการเกม ผมแค่ชอบเล่นมันเฉยๆ ผมแค่รู้สึกว่าพอเรามองกลับไปถึงคำว่ารากเหง้าของตัวเองผมประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ได้เพราะอะไร เพราะทำแล้วมีความสุขอย่างเช่นการแข่งขัน ผมเริ่มจากความสุขแค่ชอบเล่นเกมและไม่อยากแพ้ แล้วก็ต่อยอดเล่นไปเรื่อยๆ พอโอกาสเข้ามาเราก็รับไว้ เราไม่ได้อยากเป็น Streamer แต่อยู่ดีๆ มีคนมาโดเนทให้เรา โอกาสเข้ามาเราก็คว้าไว้ ทำแล้วสนุกก็เอนจอยต่อไป สุดท้ายวนกลับมาทุกวงการทุกอาชีพเป้าหมายคือสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าเป้าหมายคือทำแล้วมีความสุขครับ