Entwined in Love : เพิร์ล ศัจกร – พีค ภีมพล และ เพิร์ธ วีริณฐ์ศรา

สลักรักในแสงจันทร์ เรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นท่ามกลางขอบเขตของหน้าที่ ครอบครัว และหัวใจของตัวเอง เมื่อสามคนถูกผูกพันด้วยความรัก ความปรารถนา และความผูกพัน

MF: พูดถึง สลักรักในแสงจันทร์ Love in the moonlight
เพิร์ล: สลักรักในแสงจันทร์ผมว่ามันเป็นละครรักนะ เป็นรักโรแมนติกซึ่งมันก็มีหลากหลายแบบในเรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาเกือบครบทุกแบบไม่ว่าจะจากพ่อ จากเจ้ายาย จากครอบครัว แบบพี่น้อง แบบเพื่อน รวมถึงแบบคนรัก

MF: พูดถึงประเด็นที่น่าสนใจในละครพีเรียดวาย สลักรักในแสงจันทร์
เพิร์ล: เพราะมันมีความรักหลากหลายรูปแบบ ตัวละครทุกตัวมีแรงขับเคลื่อนด้วยความรัก เพราะว่าเรารักคนนี้เราเลยทำแบบนี้ แต่พอความรักมันเกิดขึ้นผูกพันกันไปหมดมันเลยเกิดคอนฟลิกต์ขึ้นมา คือถ้าสมมุติว่ามองในมุมของตัวละคร ศศิน ผมรู้สึกว่าการแต่งงานถ้าคุณไม่ได้รักเขา คุณก็ไม่ควรที่จะแต่งงานกับเขา 

MF: ตีความบทบาทที่ได้รับยังไง
เพิร์ล: ผมรับบท ศศิน ต้องบอกว่าศศินเขาเป็นคนที่อารมณ์ค่อนข้างขึ้นลงไวถ้าเจออะไรที่เขารู้สึกว่าไม่โอเคเขาก็จะโกรธ โกรธง่ายหายเร็วเป็นคนประมาณนั้นซึ่งตัวผมไม่ใช่เป็นคนแบบนั้นเป็นคนค่อนข้างมั่นคง ผมก็เลยทำการบ้านเติมแบ็คกราวน์ให้เขาว่าเขาผ่านอะไรมา เขาเจอกับอะไรมาทำไมเขาถึงเป็นคนแบบนี้แล้วทำไมเขาถึงคิดแบบนี้แล้ว เขายังเป็นนักไวโอลินด้วยผมก็ต้องไปฝึกไวโอลินเพื่อที่จะไป perform ให้มันโอเคในบนเวที เพราะเขาเล่นในไนท์คลับ

MF: ความรู้สึกของทั้งสองคนได้เล่นคู่กัน
เพิร์ล: หลังจากออดิชั่นเสร็จที่รู้ว่าได้เล่นคู่กันก็ดีใจนะตอนแรกที่ได้เล่นคู่กันเพราะว่าเหมือนเขาก็มีผลงานมาแล้ว เราก็รู้สึกว่าเราได้เล่นอยู่กับคนที่มีความสามารถมันเก่งแล้วรวมถึงพี่ๆ นักแสดงหลายท่านเราดีใจอยู่แล้วเรารู้สึกว่าเราได้มาหาความรู้ใหม่ ได้มาพัฒนาตัวเอง แล้วเหมือนกับได้มันมันชาเลนจ์เรา ให้เราได้ไปสู้กับเขาว่าเราจะไฟท์กับเขาได้ไหมเ ราก็ไม่ยอมเหมือนกันเราอยากจะพิสูจน์การแสดงกับเขาจริงไหมก็รู้สึกดีใจ

MF: มองความสัมพันธ์ของทั้งสามคนเป็นแบบไหน
เพิร์ล: เป็นความรักครับ เป็นความรักที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกพูดไม่ได้ คือเราสามคนรักกัน ทุกคนรักกันหมดเลยแต่รักและหวังดีต่อกันมันก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะโอเคเพราะว่ามันมีบางอย่างที่เราบอกเขาไม่ได้ เราบอกเขาไม่ได้เพราะเรารักเขามันก็เลยค่อนข้างจะพูดยาก

MF: เตรียมตัวด้านภาษา/กิริยา/การใช้คำพูดแบบพีเรียดยังไง
เพิร์ล: ด้านภาษามีแค่บางคำเท่านั้นที่รู้สึกว่ามันเฉพาะเจาะจง แต่ว่าส่วนมากถ้าเป็นภาษาพูดเราก็แค่พูดให้ช้าลงนิดนึง แล้วก็ถ้าคำไหนที่ไม่โอเคเขาจะบอกมาว่าอันนี้ไม่เอา อันนี้ไม่ได้ แต่ส่วนมากก็เล่นไปก่อน ด้านภายนอกของศศิน เขาเป็นคนค่อนข้างกล้าแสดงออก กวนๆ ขี้เล่น เพราะฉะนั้นผมรู้สึกว่าผมสามารถใส่เต็มไปก่อนได้เลย

MF: อยากให้คนดูจดจำ ‘สลักรักในแสงจันทร์’ แบบไหน
เพิร์ล: ผมอยากให้จดจำว่ามันคือละครรักเรื่องนึงที่มันเป็นความรักจริงๆ ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ตอนนั้น ในเหตุการณ์นั้น ในยุคสมัยนั้น ซึ่งสมัยนี้อาจจะยังมีอยู่ มันก็อาจจะเชื่อมโยงกันได้ แล้วผมเชื่อว่าเมื่อความรักมันเกิดขึ้นทุกคนที่อินไปกับมันก็จะจดจำมันเอาไว้ เหมือนในเรื่องนี้ก็อยากให้จดจำว่า ความรักของพวกเราทั้ง 3 คนมันสลักเอาไว้ในแสงจันทร์ อยากให้จำเป็นภาพแบบนั้นมากกว่า 


MF: พูดถึง สลักรักในแสงจันทร์ Love in the moonlight
พีค: สลักรักในแสงจันทร์จะพูดถึงเรื่องของเจ้าเมืองตระกูลนึงที่กำลังจะถูกยึดทรัพย์ก็เลยต้องหาวิธีที่จะเอาตัวรอดให้ได้ซึ่งวิธีนั้นก็คือการแต่งงาน เจ้าแสงแก้วก็เลยต้องไปแต่งงานกับครอบครัวของผู้หญิงไทยเพื่อโยกย้ายทรัพย์สมบัติจนวันนึงดันไปมีความรู้สึกดีๆ ให้กับพี่ชายของคู่หมั้นก็เลยต้องเลือกระหว่างหน้าที่ที่ต้องทำครอบครัวหรือว่าสิ่งที่เราต้องการ

MF: พูดถึงประเด็นที่น่าสนใจในละครพีเรียดวาย สลักรักในแสงจันทร์
พีค: ความเข้มข้นของเนื้อเรื่องที่ มันจะมีคอนฟลิกต์เกิดขึ้นจากหลายๆ ด้านและมันก็จะทวีคูณเพิ่มขึ้นไปอีกอย่างเช่น ตอนแรกมีปัญหาแค่บ้านเมืองจะถูกยึดทรัพย์ก็เลยต้องหนีมาที่ไทยปึ๊บพอมาไทยเกิดมาหลงรักกับอีกคนนึงที่ไม่ใช่คู่หมั้นเราก็จะมีคอนฟลิกต์เพิ่มขึ้นไปอีก อย่างตัวแสนแก้วก็ต้องทำตามทุกอย่างที่พ่อสั่งแต่ว่าลึกๆ แล้วที่เขามีสิ่งที่ตัวเองต้องการอยู่ในใจแล้วก็ไม่ได้ชอบกับคนที่ต้องแต่งงานด้วยก็เลยก็เลยคิดว่า ปมของเรื่องนี่แหละจะเป็น จะเป็นอะไรที่คนดูรู้สึกว่าลุ้นอยากจะดูต่ออะไรอย่างเงี้ยครับ

MF: ตีความบทบาทที่ได้รับยังไง
พีค: เจ้าแสนแก้วตั้งแต่อ่านบทแรกๆ ผมรู้สึกว่าเขาค่อนข้างเป็นคนที่ sensitive มากๆ แล้วก็ เป็นคนที่อ่อนไหว ข้างนอกอาจจะดูนิ่งๆ เข้มแข็งไม่ค่อยแสดงออก แต่ผมว่าลึกๆ เขาเป็นคนที่เปราะบางพอสมควรก็เลยรู้สึกว่ามันมีความคล้ายๆ ตัวผมเหมือนกันที่มีความอ่อนไหว sensitive แล้วก็บางทีก็ไม่อยากจะ express ความรู้สึกให้คนอื่นเขารู้มากขนาดนั้น แต่ว่าที่จะต้องทำการบ้านเพิ่มเติมก็คือ background ของตัวละครที่ ในบทอาจจะไม่ได้มีให้มากขนาดนั้น แล้วก็ปมต่างๆ ในชีวิตที่เคยเกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ผมก็พยายามไปสร้าง background ให้เขา 

MF: ความรู้สึกของทั้งสองคนได้เล่นคู่กัน (เพิร์ล พีค)
พีค: ก็รู้สึกสบายใจดีนะครับ แล้วก็ที่เจอกันตอนครั้งแรกหรือในตอนออดิชั่นด้วยกัน ก็รู้สึกว่ามันมีความซิงค์อะไรกันบางอย่าง มีเคมีที่มันลงล็อคกันมันทำให้เราเชื่อใจเวลาแสดงมันก็จะรู้สึกว่าสนุกกับการแสดง พอสนิทกันมากขึ้นผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างรู้ใจกันนะ แล้วก็สามารถ improvise ในซีนที่สำคัญได้

MF: มองความสัมพันธ์ของทั้งสามคนเป็นแบบไหน
พีค: เป็นความสัมพันธ์ที่ที่ดีนะ หมายถึงว่าเราเป็นคู่หมั้นกับปิ่น ปิ่นเป็นน้องสาวของศศิน แต่สุดท้ายแล้วที่มันทำให้มีคอนฟลิกต์เกิดขึ้นก็เป็นเพราะว่าเราดันไปหลงรักกับ กับศศินซึ่งเป็นพี่ชายเขา ความสัมพันธ์นี้มันก็เลยกลายเป็นยุ่งเหยิงมากขึ้น แต่ทั้ง 3 คนไม่ได้ไม่มีใครไม่รักกัน ทุกคนรักกันแต่ว่าทุกคนรักอีกคนด้วย หมายถึงว่าทุกคนรักกันแต่ว่าเรามองแค่มุมของตัวเองไม่ได้ อย่างถ้ามองแค่มุมแสนแก้วนะครับผมก็รู้สึกว่าผมไม่ได้รักน้องปิ่นแบบเจ้าสาว รักเขาเป็นน้องสาวคนนึง การที่ผมจะไปรักกับศศินก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ถ้ามองกันแค่ความรักเลย มันก็เลยเป็นมุมที่ปิ่นไม่เข้าใจมันก็เลยกลายเป็นรักสามเศร้าแบบเศร้าๆ

MF: เตรียมตัวด้านภาษา/กิริยา/การใช้คำพูดแบบพีเรียดยังไง
พีค: ของผมเป็นเจ้า ผมก็รู้สึกว่า appearance ข้างนอกก็สำคัญ การเดิน การยืน การนั่งก็ต้องเตรียมตัวเหมือนกัน ผมก็ไปคิดมาว่ามันอาจจะไม่เหมือนเรื่องอื่นที่เราเคยเล่นมาหรือว่าคิวถ่ายแรกๆ พี่ปุ๊ยผู้กำกับเขายังช่วยอยู่เลย นั่งท่านี้ไม่ดีนะลองเปลี่ยนเป็นนั่งให้มันดูเป็นเจ้ามากขึ้น รวมถึงการพูดผมว่าหลักก็คือการพูดให้ชัดถ้อยชัดคำแล้วก็การแบ่งจังหวะให้ดีครับ มันอาจจะไม่ได้พูดเร็วมากเท่ากับวัยรุ่นปัจจุบันนี้ มันอาจจะต้องมีความชัดถ้อยชัดคำมากขึ้นครับ

MF: อยากให้คนดูจดจำ ‘สลักรักในแสงจันทร์’ แบบไหน
พีค: ผมขอให้มันเป็นเหมือนตัวแทนแล้วกัน ตัวแทนของความหวังในเรื่องของความรัก เพราะว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่สื่อสารประเด็นหรือว่ามุมมองทางความรักที่หลากหลายแต่ถูกจำกัดด้วยยุคสมัย สถานะ รวมถึงค่านิยมต่างๆ ในสังคม หลายๆ คนจะได้เห็นทั้งมุมมองจากผู้ใหญ่หรือว่าอาจจะเป็นคนที่มีมุมมองแบบหนึ่งแต่ว่าแสนแก้วและศศินก็จะเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีมุมมองที่อยากจะมีอิสระทางความคิดหรืออิสระทางความรักมากกว่าผู้ใหญ่


MF: พูดถึง สลักรักในแสงจันทร์ Love in the moonlight
เพิร์ธ: ในเรื่องแสนแก้วก็จะเป็นเจ้าเมืองเหนือจากเชียงใหม่แต่มีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับการเมืองการโยกย้ายสมบัติก็เลยจำเป็นต้องแต่งงานกับผู้หญิงไทยเพื่อทำการย้ายสมบัติแต่พอเขาต้องมาแต่งงานกับเราแต่เขาไปมีความรู้สึกดีๆ ให้กับพี่ชายของเรา

MF: พูดถึงประเด็นที่น่าสนใจในละครพีเรียดวาย สลักรักในแสงจันทร์
เพิร์ธ: ตอนที่อ่านบทมีความรู้สึกว่ามันค่อยๆ เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ส่วนความรักมักจะย้อนยุคกลับไปตอนนั้นว่าความรักบางทีมันอาจจะไม่จำเป็นต้องตรงกับค่านิยมในตอนนั้นก็ได้ แต่ความคิดกับสิ่งที่คนให้ความเห็นกับความรักในรูปแบบนี้เขาแสดงออกกับมันยังไงบ้าง เกี่ยวกับเรื่องความรักครอบครัว อย่างในเรื่องคุณพ่อของแสนแก้วเขาจะรู้สึกรับไม่ได้ ก็จะเป็นอุปสรรคที่ต้องฝ่าฟันกันไป

MF: ตีความบทบาทที่ได้รับยังไง
เพิร์ธ: ปิ่นอนงค์เป็นเด็กผู้หญิงคนนึงที่มีรักแรกเป็นเจ้าแสนแก้ว เป็นคนที่ไม่ค่อยได้เจอโลกหรือเรื่องราวอะไรในชีวิตเท่าไหร่ค่ะ ค่อนข้างจะสดใส มองโลกในแง่ดี แต่เพิร์ธไม่รู้จริงๆ ว่ามันจะเป็นประมาณไหนบ้างแต่ก็พยายามที่จะย้อนกลับไปที่จะดูว่าสังคมตอนนั้นเป็นประมาณไหน น่าจะทำยังไงกับสถานการณ์ในตอนนั้น แต่เรื่องของเราก็อาจจะไม่ได้ย้อนไปเยอะมากก็ยังมีความทันสมัยขึ้นมาหน่อย แต่เราอยากให้รู้สึกว่าละครของเราเรื่องนี้เป็นพีเรียดก็จริงแต่ว่าทำให้คนตอนนี้ดู เรื่องจังหวะการพูดก็อยากจะให้โฟลว์ที่สุด ให้คนดูตอนนี้เข้าใจและเข้าถึงได้มากที่สุด

MF: มองความสัมพันธ์ของทั้งสามคนเป็นแบบไหน
เพิร์ธ: ถ้าในมุมของเพิร์ธแล้ว เพิร์ธคิดว่ามันโอเค รับได้ถ้าเกิดเรื่องนี้ขึ้นจริงๆ แต่ในเรื่องปิ่นอนงค์เขารู้สึกว่าพี่ชายเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด เป็นที่ปลอดภัยเดียว เป็นหลักยึดของเรา การที่มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมันเหมือนเราโดนดึงความอบอุ่นนั้นไป

MF: เตรียมตัวด้านภาษา/กิริยา/การใช้คำพูดแบบพีเรียดยังไง
เพิร์ธ: ก็มีเวิร์คช็อปก่อนที่จะถ่ายจริงๆ พอเราได้อยู่กับบทนานๆ เวิร์คกับบทนานๆ มันก็ค่อยๆ อินเข้าไปเรื่อยๆ เรามีโอกาสได้มาทำหน้าเซ็ทจริงๆ ก็ยิ่งทำให้เราเข้าใจตัวละครมากขึ้นไปอีก

MF: อยากให้คนดูจดจำ ‘สลักรักในแสงจันทร์’ แบบไหน
เพิร์ธ: ความรักสามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ อยากให้รู้สึกแบบนั้น


INTERVIEW Thunthiwa Saksiriwetkul
DIGITAL EDITOR Anansit Karnnongyai
PHOTOGRAPHY Intrachai Watmakawan


More from this stream

Recomended

ทุกฤดูกาลคือการเดินทางของแรงบันดาลใจ กับ Dior Gold House

ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังโอบรับบรรยากาศแห่งความสุขและการเฉลิมฉลองปลายปี Dior ได้เผยโฉม Pop-up Store สุดพิเศษ ณ Dior...

Fendi 925 ความงามเชิงโครงสร้างที่เริ่มต้นจากหัวใจของงานฝีมือ

ในโอกาสครบรอบ 100 ปีของเมซง FENDI แบรนด์ได้เผยโฉมคอลเล็กชั่นเครื่องประดับผู้ชายใหม่ในชื่อ Fendi...

Loro Piana เปิดตัว Holiday Gifting Pop-up 2025

ในฤดูกาลที่บรรยากาศแห่งความอบอุ่นและความปรารถนาดี Loro Piana...

TAG Heuer รำลึกถึง Ayrton Senna ด้วยนาฬิกาโครโนกราฟสองรุ่นสุดโดดเด่น

TAG Heuer ยังคงสานต่อการรำลึกถึงหนึ่งในแชมป์เปี้ยนระดับตำนานของวงการฟอร์มูลาวัน...

แคนนอน เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III และเลนส์ไพรม์ RF45mm f/1.2 STM

แคนนอน (Canon) เปิดตัวสมาชิกล่าสุดในตระกูล...