MIDO เผยโฉมเรือนเวลาดีไซน์ใหม่ในคอลเลกชั่น “Multifort TV Big Date”

Multifort TV Big Date เรือนเวลาดีไซน์ใหม่จาก MIDO กับหน้าปัดทรงทีวีสุดคลาสสิก ผสานกลิ่นอายสปอร์ตสุดโมเดิร์น ที่โดดเด่นด้วยมิติของการจับคู่สีดำตัดกับสีเหลืองอันสะดุดตา

เติมเต็มเสน่ห์ให้ทุกลุคดูดีได้อย่างสมบูรณ์แบบไปกับเรือนเวลาดีไซน์ใหม่ล่าสุดจาก มิโด (MIDO) ในคอลเลกชั่น “มัลติฟอร์ท ทีวี บิ๊ก เดท” (Multifort TV Big Date) ที่ยังคงโดดเด่นด้วยหน้าปัดรูปทรงทีวีสุดคลาสสิกและช่องบอกวันที่ขนาดใหญ่ ในรูปโฉมใหม่ที่มาในคู่สีดำและสีเหลืองสดใสตัดกันอย่างมีมิติ สะท้อนบุคลิกอันมั่นใจและความมีสไตล์ของผู้สวมใส่ได้อย่างไร้ที่ติ

MIDO แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (GEORGES SCHAEREN) เริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.SCHAEREN & CO. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน 

สำหรับคอลเลกชั่น Multifort TV Big Date ดีไซน์ใหม่มาพร้อมคู่สีดำและสีเหลืองที่สามารถผสานความคลาสสิก สปอร์ต และโมเดิร์นเข้ากันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของคอลเลกชั่น Multifort TV Big Date ที่เปิดตัวไปในปี 2023 ที่ผ่านมา โดยดีไซน์ใหม่ในคอลเลกชั่นนี้มาในตัวเรือนรูปทรงทีวีสแตนเลสสตีลขัดซาติน  หน้าปัดเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 40 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยการตกแต่งลายเส้นสีเทาตรงกลางไล่เฉดไปยังสีดำสนิทที่บริเวณขอบตัวเรือน หน้าปัดมีช่องแสดงวันที่ขนาดใหญ่ (Big Date) อยู่บริเวณตำแหน่ง 12 นาฬิกา ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ด้านข้างประกอบด้วยเม็ดมะยมแบบขันเกลียว มาพร้อมสายนาฬิกายางที่บุด้วยผ้าสีดำและเย็บด้วยตะเข็บสีเหลือง ที่สามารถถอดเปลี่ยนสายได้ตามลุคที่ต้องการ โดยเข็มนาฬิกาทั้งเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) สีขาว ช่วยอ่านค่าในที่แสงน้อยหรือในยามค่ำคืน ส่วนเข็มวินาทีและหลักนาทีเคลือบด้วยแล็กเกอร์สีเหลือง ด้านฝาหลังมาในดีไซน์แบบโปร่งใส เผยให้เห็นการทำงานของกลไกคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) ที่มีความแม่นยำและน่าเชื่อถือ พร้อมสลักโลโก้ MIDO ไว้อย่างชัดเจน ถูกครอบด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบสารกันการสะท้อนแสงทั้งด้านนอกและด้านใน อีกทั้งสามารถสำรองพลังงานสูงสุดถึง 80 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังเสริมความแข็งแรงด้วยบาลานซ์สปริงที่ผลิตจากนิวาครอง (Nivachron™) เพื่อเสริมความแข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็กได้เป็นอย่างดี พร้อมคุณสมบัติกันน้ำลึกได้ถึง 10 บาร์ หรือ 100 เมตร

นอกจากนี้ MIDO ยังได้แนะนำเคล็ดลับในการเลือกซื้อนาฬิกาที่สามารถสวมใส่ได้ในหลากหลายโอกาสเพื่อความคุ้มค่า นอกเหนือฟังก์ชันที่ถูกใจแล้ว ผู้สวมใส่ยังต้องเลือกดีไซน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการใช้งานในหลากหลายโอกาสด้วย หากเป็นวันแต่งตัวเรียบง่ายในลุคมินิมอล อาจเลือกนาฬิกาที่มีดีไซน์โดดเด่น เช่น หน้าปัดทรงเรโทร หรือการเล่นสีที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้ลุคดูมีชีวิตชีวามากขึ้น แต่หากเป็นวันทำงานหรือลุคแคชชวลกึ่งทางการ การเลือกนาฬิกาเรือนสแตนเลสสตีลในโทนสีเข้มจะช่วยเสริมลุคให้ดูเท่ สุขุม และมีความคลาสสิกในเวลาเดียวกัน

More from this stream

Recomended

BLOOM in Four Seasons – The Heart-Blossoming Immersive Experience

ครั้งแรกกับประสบการณ์ฮีลใจ สร้างความหวังสุดอิมเมอร์ซีฟ “BLOOM...

DRAGON BALL GEKISHIN SQUADRA

DRAGON BALL GEKISHIN...

Charlotte Le Bon กับบทบาทใหม่ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Boucheron

Boucheron เมซงจิวเวลรี่ชั้นสูงจากประเทศฝรั่งเศส ประกาศแต่งตั้ง...

ทุกฤดูกาลคือการเดินทางของแรงบันดาลใจ กับ Dior Gold House

ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังโอบรับบรรยากาศแห่งความสุขและการเฉลิมฉลองปลายปี Dior ได้เผยโฉม Pop-up Store สุดพิเศษ ณ Dior...

Fendi 925 ความงามเชิงโครงสร้างที่เริ่มต้นจากหัวใจของงานฝีมือ

ในโอกาสครบรอบ 100 ปีของเมซง FENDI แบรนด์ได้เผยโฉมคอลเล็กชั่นเครื่องประดับผู้ชายใหม่ในชื่อ Fendi...