TEN สมาชิกวง NCT ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถอันหลากหลายและไร้ขีดจำกัดในฐานะศิลปินเดี่ยว ผ่านคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรกใน “2025 TEN CONCERT 1001 MOVEMENT ‘STUNNER’ IN BANGKOK” ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ อิมแพ็ค อารีน่า ในวันที่ 19 และ 20 เมษายน 2025 ที่ผ่านมา โดยตลอดทั้งสองรอบการแสดง เตนล์ได้ถ่ายทอดเรื่องราวและพลังศิลปะในแบบที่เป็นตัวของเขาเองอย่างเต็มที่ จนสามารถสะกดสายตาผู้ชมได้ตั้งแต่วินาทีแรกจนจบโชว์



ก่อนเริ่มการแสดง ผู้จัดและต้นสังกัดในประเทศไทย SM True ได้จัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 เมษายน 2025 โดยมีเตนล์เข้าร่วมพูดคุยเกี่ยวกับคอนเสิร์ตครั้งสำคัญนี้ รวมถึงมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘STUNNER’ พร้อมร่วมถ่ายภาพกับคุณเทพ สินธวานนท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายปฏิบัติการ บริษัท เอสเอ็ม ทรู จำกัด และคุณกมลพรรณ คงสุวรรณ์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโสจาก Maybelline New York ซึ่งร่วมให้การสนับสนุน
คอนเสิร์ตในครั้งนี้มีชื่อว่า ‘1001 MOVEMENT’ ซึ่งเปรียบเสมือนแบรนด์ทัวร์ที่สื่อถึงตัวตนของเตนล์อย่างชัดเจน พร้อมส่งสารถึงแฟนคลับทั้ง NCTzen และ WayZenNi ภายใต้แนวคิด “ทุกการเคลื่อนไหว อธิบายและเติมเต็มตัวตนของฉัน” ความหมายนี้ถูกถ่ายทอดผ่านการแสดงอันหลากหลาย พร้อมเทคนิคการแสดงล้ำสมัย ทั้งโครงสร้างเวที LED แบบเคลื่อนไหวได้, ลิฟต์บันได, สายพานลำเลียง และเอฟเฟกต์แสง สี เสียง ที่เสริมความสมจริงและอารมณ์ในแต่ละช่วงของโชว์
ตลอดการแสดง เตนล์นำเสนอคอนเซปต์การถือกำเนิดใหม่เป็น “ไซเรน” สิ่งมีชีวิตลึกลับในตำนานกรีก-โรมัน ผ่านวีซีอาร์เปิดตัว และระเบิดพลังด้วยเพลง ‘Nightwalker’, ‘ON TEN’, ‘Dangerous’, ‘Shadow’, ‘Water’ และ ‘Birthday’ ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดด้านการแสดงที่พลิกแพลงไม่ซ้ำในแต่ละโชว์ ทั้งการจัดวางองค์ประกอบศิลป์ ดนตรี และท่าเต้นที่สอดรับกันอย่างมีศิลปะ สมกับคำว่า ‘Artistic Performerมา

นอกจากนี้ เตนล์ยังเปิดตัวเพลงจากมินิอัลบั้มชุดที่ 2 เป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นเพลงไตเติ้ล ‘STUNNER’, เพลงแดนซ์จังหวะสนุก ‘BAMBOLA’, เพลงดาร์ก ‘Sweet As Sin’ พร้อมลูกเล่นผ้าปิดตา, การใช้บันไดใน ‘Enough For Me’, ความละมุนของ ‘Butterfly’ ที่มาพร้อมผีเสื้อโปรเจกชันบนผ้าม่านโปร่งแสง 16 เมตร และ ‘Waves’ ที่อบอวลด้วยความสุขและพลังบวก


หนึ่งในไฮไลต์ที่แฟน ๆ พูดถึงอย่างล้นหลามคือ เมดเลย์เพลงฮิตจากวง NCT อย่าง ‘Baby Don’t Stop’, ‘Steady’, ‘Smoothie’, ‘Kick It’ และ ‘Baggy Jeans’ รวมถึงเพลงจาก WayV อย่าง ‘Call Me’ ที่นำเสนอในสไตล์ใหม่ของเตนล์ และโชว์สุดพิเศษจากการคัฟเวอร์เพลง ‘Die With A Smile’ ของ Lady Gaga และ Bruno Mars ที่ถ่ายทอดข้อความลึกซึ้งถึงแฟนคลับ

แฟน ๆ เองก็ได้ร่วมสร้างความประทับใจผ่านโปรเจกต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแปรกล่องไฟ “TEN ERA”, “ONLY TEN” และแบนเนอร์ที่แสดงข้อความสุดซึ้ง เช่น
“Millions of stars here will always shine for TEN.”
“We always shine for each other.”
“Through seasons change, our hearts remain. A love that blooms against the rain.”
“Every bloom says ‘I love you’ just for you.”
ตลอดเวลา 2 ชั่วโมงของคอนเสิร์ต การแสดงของ TEN ไม่เพียงตอกย้ำสถานะศิลปินเดี่ยวคุณภาพระดับโลก แต่ยังเผยให้เห็นพลังของการรวมตัวกันระหว่าง ‘10’ และ ‘01’ ที่ก่อเกิดเป็นความงดงาม อารมณ์ และพลังสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัดระหว่างศิลปินและแฟนคลับ ผู้เป็น ‘STUNNER’ ของกันและกันอย่างแท้จริง


