Tissot จัดงานเปิดตัว PRC 100 Solar นวัตกรรมเรือนเวลาแห่งอนาคต โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี “Lightmaster Solar Quartz” เปลี่ยนแสงอาทิตย์สู่พลังงานไร้ขีดจำกัด

สัมผัสนวัตกรรมล้ำสมัยที่เปลี่ยนแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่ไร้ขีดจำกัด จาก Tissot ในงานเปิดตัว PRC 100 Solar เรือนเวลารุ่นใหม่ล่าสุดจากคอลเลกชั่น PRC 100 ที่เคยเปิดตัวครั้งแรกในช่วงกลางทศวรรษ 2000 และได้รับการจดจำด้วยการออกแบบที่โดดเด่น โดย PRC 100 Solar เป็นนาฬิกาดีไซน์เรียบเท่มาพร้อมกลไก ไลท์มาสเตอร์ โซลาร์ ควอตซ์ (Lightmaster Solar Quartz) อันล้ำสมัยที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการขับเคลื่อนทุกวินาที โดยงานครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก โอม-ภวัต จิตต์สว่างดี ร่วมถ่ายทอดสไตล์อันโดดเด่น พร้อมโชว์สุดพิเศษที่ ทิสโซต์บูทีค วัน แบงค็อก (One Bangkok) บริเวณโซน Parade ชั้น G ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
วริศรา ลิขิตธรรมสาร ผู้จัดการแบรนด์นาฬิกาทิสโซต์ ประเทศไทย กล่าวถึงการเปิดตัวนาฬิกา PRC 100 Solar ในครั้งนี้ว่า “PRC 100 Solar เป็นตัวอย่างของเรือนเวลาที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งเกิดขึ้นจากการผสมผสานระหว่างความงามของงานออกแบบ ธรรมชาติ และนวัตกรรม โดยเราต้องการสร้างสรรค์นาฬิกาที่ตอบโจทย์ทั้งความแม่นยำ ความทนทาน และความคลาสสิก ในดีไซน์ที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกวัน และนาฬิกาเรือนนี้ยังมอบความคุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในแง่ของการใช้งานที่ยาวนานโดยไม่ต้องเปลี่ยนถ่าน รวมถึงดีไซน์ที่ไม่ตกยุค ทำให้เป็นการลงทุนที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและความสวยงาม”


Tissot ก้าวสู่ยุคใหม่ของนวัตกรรมด้วยการเปิดตัว PRC 100 Solar เรือนเวลาที่ออกแบบมาเพื่อสะท้อนถึงนวัตกรรมอันล้ำสมัยและความสร้างสรรค์ในแบบฉบับของทิสโซต์ โดยก่อนหน้านี้ Tissot ได้เปิดตัวแคมเปญที่นำเสนอความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการออกแบบนาฬิกาคอลเลกชั่นนี้ผ่านไลฟ์สไตล์ของ Archie Renaux นักแสดงหนุ่มผู้เป็นตัวแทนของความมุ่งมั่น ตั้งใจ และความทะเยอทะยาน
PRC 100 Solar เป็นเรือนเวลาดีไซน์เรียบเท่มาพร้อมกลไก ไลท์มาสเตอร์ โซลาร์ ควอตซ์ (Lightmaster Solar Quartz) ซึ่งใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการขับเคลื่อน ด้วยคุณสมบัติที่สามารถกักเก็บพลังงานจากแสงธรรมชาติและแสงประดิษฐ์ผ่านกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ ส่งต่อไปยังแผงโซลาร์เซลล์ที่มีโครงสร้างระดับจุลภาคเป็นรูปทรงรังผึ้ง ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับพลังงาน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความงามของหน้าปัด จากนั้นพลังงานจะถูกถ่ายโอนผ่านตัวเชื่อมต่อ ‘Zebra’ ในตัวเรือนไปยังกลไก ‘F06.615 Quartz Swiss Made’ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความแม่นยำ และพลังงานจะถูกเก็บไว้ในแบตเตอรี่แบบชาร์จได้ เมื่อชาร์จเต็มแล้วจะสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 14 เดือน และด้วยกลไกการผลิตในสวิตเซอร์แลนด์ที่ใช้พลังงานต่ำ ทำให้สามารถกักเก็บพลังงานได้สูงสุดเพื่อการทำงานอย่างต่อเนื่องแม้จะได้รับแสงเพียงเล็กน้อย โดยการได้รับแสงเพียง 10 นาทีทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ถึง 24 ชั่วโมง กล่าวคือการสวมใส่เพียงวันละไม่กี่นาทีก็ทำให้นาฬิกาสามารถใช้งานได้ยาวนานอย่างไม่มีสิ้นสุด (เมื่อความเข้มแสงปกติเฉลี่ยของแต่ละวันอยู่ที่ 5,000 ลักซ์) อีกทั้งยังได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันให้มีความแม่นยำ (Precise) ทนทาน (Robust) และดีไซน์คลาสสิก (Classic)
Tissot นำเสนอดีไซน์ของเรือนเวลาในรูปแบบที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์สไตล์และความมั่นใจที่แตกต่างกัน โดยจะมีตัวเรือน 2 ขนาด ได้แก่ 39 มม. และ 34 มม. ซึ่งขนาด 39 มม. มีทั้งหมด 5 ดีไซน์ที่โดดเด่นด้วยกรอบหน้าปัดรูปทรงสิบสองเหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อันประกอบไปด้วยเรือนสแตนเลสสตีลมีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ หน้าปัดซันเรย์สีเงินที่เล่นกับแสงสะท้อน, หน้าปัดสีน้ำเงินเข้มที่ถ่ายทอดความลึกล้ำของมิติได้อย่างน่าสนใจ และตัวเรือนรุ่นสีดำล้วนที่มาพร้อมสายนาฬิกาที่เข้าชุดกัน สามารถเพิ่มความโดดเด่นน่าค้นหาให้กับผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี และอีก 2 ดีไซน์มาพร้อมสายหนังสุดคลาสสิก อย่างการจับคู่ระหว่างตัวเรือนสแตนเลสสตีลกับสายหนังสีน้ำตาล และตัวเรือนรุ่นสีดำที่จับคู่กับสายหนังสีดำได้อย่างลงตัว นอกจากนี้เข็มนาฬิกาและตำแหน่งบอกเวลายังเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) เพื่อช่วยอ่านค่าในที่แสงน้อยได้อย่างแม่นยำ


