สำหรับฤดูกาล Summer 2025 นี้ SAINT LAURENT ได้นำเสนอแคมเปญที่แตกต่างและทรงพลัง ด้วยแนวทางที่ผสานระหว่างโลกของแฟชั่นกับศิลปะอย่างลึกซึ้ง ที่นำโดย แอนโทนี วัคคาเรลโล ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ผู้เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์ แบรนด์ได้เชิญชวน ฟรานเชสโก คลีเมนเต ศิลปินร่วมสมัยระดับตำนาน มาร่วมตีความคอลเลกชั่นฤดูร้อนในรูปแบบของศิลปะภาพวาดที่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณ


ในแคมเปญครั้งนี้ คลีเมนเตได้ถ่ายทอดภาพบุคคลของหญิงสาวสี่คน ซึ่งล้วนเป็นตัวแทนของความงามที่หลากหลายและพลังแห่งความเป็นหญิง ได้แก่ นักแสดงมากฝีมืออย่าง โซอี้ คราวิทซ์ และ อิซาเบลลา เฟอร์รารี รวมถึงนางแบบระดับโลกอย่าง เพเนโลเป เทอร์เนส และ อจัส ซามูเอล พวกเธอได้ถูกถ่ายทอดผ่านเส้นสายและสีสันของพู่กันอย่างละเมียดละไม ให้กลายเป็นภาพพจน์ที่ทรงพลัง ทั้งอ่อนโยนและมั่นคงในคราวเดียวกัน ราวกับเป็นบทกวีที่เขียนขึ้นจากสุนทรียะและความเข้าใจในตัวตนของผู้หญิง



คลีเมนเตนำเสนอภาพเหล่านี้ในรูปแบบของงานจิตรกรรมร่วมสมัยที่เน้นการใช้โทนสีที่ซ้อนทับกันอย่างซับซ้อน เป็นการใช้เฉดสีที่ไม่เพียงแต่สร้างบรรยากาศอันลึกซึ้งและชวนให้สำรวจ แต่ยังสื่อถึงจิตวิญญาณของผู้หญิงแต่ละคนอย่างเฉียบคม ภาพวาดแต่ละชิ้นเปรียบเสมือนการรำพึงรำพันทางอารมณ์ บอกเล่าเรื่องราวของความมั่นใจ ความเปราะบาง ความแข็งแกร่ง และความสวยงามในแบบที่ไม่จำกัดอยู่เพียงกรอบเดียว แอนโทนี วัคคาเรลโล ได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ในการสานต่อบทสนทนาระหว่างแฟชั่นกับศิลปะ ซึ่งเป็นแกนหลักของ SAINT LAURENT ในยุคปัจจุบัน งานในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพราะชื่อเสียงทางศิลปะ หากแต่เพราะคลีเมนเตมีภาษาทางศิลป์ที่ลึกซึ้งและเป็นเอกลักษณ์ สามารถสื่อสารอารมณ์อันซับซ้อนของคอลเลกชันฤดูร้อนนี้ได้อย่างทรงพลัง โดยไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดแม้แต่คำเดียว


การร่วมงานกับศิลปินระดับตำนานเช่นนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางที่วัคคาเรลโลยึดถือมาโดยตลอด นั่นคือการเปิดรับมุมมองใหม่จากศิลปินหลากหลายแขนง และนำเอาแนวคิดที่หลากหลายเหล่านั้นมาหล่อหลอมเป็นผลงานที่เปี่ยมด้วยมิติ นี่คืออีกหนึ่งบทของความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างแฟชั่นและศิลปะ ที่ไม่เพียงแต่คงอยู่ หากแต่ยังค่อย ๆ พัฒนา เติบโต และเผยให้เห็นขอบเขตที่ไร้ขีดจำกัดของการแสดงออก ด้วยการถ่ายทอดผ่านพู่กันของคลีเมนเต แคมเปญ SAINT LAURENT Summer 2025 จึงไม่เพียงเป็นภาพลักษณ์ของแฟชั่นในฤดูกาลใหม่ แต่ยังเป็นบทกวีที่สดใหม่ของผู้หญิงร่วมสมัย ที่นิยามความงามและพลังในแบบของตนเอง ผ่านสายตาและหัวใจของศิลปินผู้เข้าใจความลึกซึ้งของความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง