Becoming Park Bo Gum : Components of Success

กว่าจะเป็น พัคโบกอม ส่วนประกอบของความสำเร็จ

เขาอาจเป็น ‘แฟนหนุ่มแห่งชาติ’ และ ‘องค์รัชทายาทของสาธารณรัฐเกาหลีใต้’ ที่ก้าวออกจากสปอตไลต์เพียงชั่วคราว แต่เขากลับมาพร้อมลุยกับโปรเจกต์ต่างๆ ทั้งซีรีส์เรื่องใหม่คู่กับไอยู และแอมบาสเดอร์ของ CELINE พัคโบกอม กลับมาทวงคืนบัลลังก์ความเป็น ‘ราชนิกูล’ ของเขาแล้ว

ไม่มีอะไรจะถือว่าเป็นการยอมรับไปได้มากกว่าการถูกเรียกว่า ‘แฟนหนุ่มแห่งชาติ’ ‘น้องชายแห่งชาติ’ หรือ ‘องค์รัชทายาทของสาธารณรัฐเกาหลีใต้’ คนที่ได้รับสมญานามที่แสดงถึงความรักจากสาธารณชนเช่นนี้ เรียกได้เลยว่าอยู่ในจุดพีคของอาชีพ แต่พัคโบกอมไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดเพียงเท่านี้

นักแสดงหนุ่มเริ่มเป็นที่สนใจจาก Reply 1988 ที่ปล่อยมาแล้วเกือบทศวรรษ แสดงนำคู่กับนักร้อง-นักแสดงสาว ฮเยริ ซึ่งบทนี้เปิดทางให้ได้รับบทบาทต่างๆ ทั้งเป็นนักแสดงนำใน Love in the Moonlight (2016) The Encounter (2018) และ Record of Youth (2020) ได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามสู่การเป็นดาวดวงใหม่ เมื่อถึงเวลาที่ต้องรับใช้ชาติ นักแสดงหนุ่มวัย 31 ปีคนนี้ได้ถอยออกมาจากสปอตไลต์และปฏิบัติหน้าที่ของตัวเอง 3 ปีที่ห่างหายไปจากสายตาสาธารณชนอาจดับแสงเขาไปบ้าง แต่ พัคโบกอมกลับมาแล้ว โปรเจกต์การกลับมาล่าสุดของเขาคือละครเพลง ‘Let Me Fly‘ ซึ่งเขาได้ท้าทายตัวเองด้วยการแสดงบนเวที ตามมาด้วยภาพยนตร์โรแมนติกไซไฟ ’Wonderland’ ซึ่งได้ถ่ายทำไปก่อนที่เขาจะเข้ากรมและรับบทในซีรีส์เรื่องใหม่ When Life Gives You Tangerines (ภาษาไทย: ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน) คู่กับนักร้อง-นักแต่งเพลง นักแสดงสาวมากความสามารถ ไอยู และตอนนี้กำลังถ่ายทำซีรีส์เรื่องใหม่ Good Boy

พัคโบกอมลุยงานหนักทดแทนเวลาที่เสียไป สร้างความประทับใจให้แก่แฟนคลับที่เห็นไอดอลของพวกเขาใช้ชีวิตสมกับการมี ‘ภาพลักษณ์ที่ดี’ สิ่งนี้และความขยันของเขานั่นเองที่ช่วยให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีความสำคัญและมีชื่อเสียงอย่างมากในวงการบันเทิงเกาหลี ไม่ได้อาศัยแค่เพียงดวงตาที่แสนใสซื่อราวลูกหมา หรือเสน่ห์ของความเป็นหนุ่มน้อยซึ่งมักจะทำให้เขาได้รับบท ‘ชายหนุ่มที่แสนดี’ อยู่เสมอเท่านั้น พัคโบกอมแสดงให้เห็นความสามารถทางการแสดงที่มากขึ้นผ่านบทฆาตกรต่อเนื่องใน I Remember You

นอกเหนือจากการเดินพรมแดงในเทศกาลภาพยนต์ต่างๆ เส้นทางอาชีพด้านแฟชั่นของเขาโดดเด่นขึ้นกับการแอมบาสเดอร์ให้แก่ CELINE ทำให้ความเป็น ‘ราชนิกูล’ ของพัคโบกอมถือว่าไม่ได้เว่อร์ไป เขาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับซีรีส์เรื่องใหม่ การถ่ายทำกับไอยู และเส้นทางการเติบโตของอาชีพตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันกับ Men’s Folio

MF: พูดถึงซีรีส์ที่กำลังจะฉาย WHEN LIFE GIVES YOU TANGERINES ช่วยอธิบายตัวละคร กวานชิก ที่คุณเล่นให้เราฟังได้ไหม
กวานชิกคือคนที่เคารพคนที่เขารักมากๆ เขาซื่อสัตย์ แน่วแน่ และเชื่อถือได้ ยึดถือความทุ่มเทและความจริงใจมากๆ การโกหกไม่ใช่ธรรมชาติของเขาครับ

MF: ไอยูเคยพูดว่า คุณคือ ‘เพื่อนที่แสนล้ำค่า’ ในคอนเสิร์ตของเธอ ตอนนี้เธอกลายเป็นนักแสดงนำคู่กับคุณ การทำงานร่วมกันเป็นอย่างไรบ้าง มีความทรงจำประทับใจไหนที่อยากจะแชร์กับเราไหม
โบกอม: การที่ได้แสดงกับเพื่อนรุ่นเดียวกันมันทั้งสบายใจและสนุกครับ ไอยูแสดงอารมณ์ที่มีสีสันของตัวละครแอซุนได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ผมหลอมรวมไปกับบทของกวานชิกได้อย่างเต็มรูปแบบ ผมรู้สึกว่าเราสนิทกันมากขึ้นหลังจากที่ได้ทำกิจกรรมโปรโมทด้วยกัน เธอเป็นคนที่คุยสนุก เป็นเพื่อนที่สดใสและล้ำค่าครับ

MF: มีอะไรที่ได้เรียนรู้มาจากการถ่ายทำด้วยกันบ้างไหม
โบกอม: ไอยูเป็นเพื่อนที่ใจดี อบอุ่น และมีอารมณ์ขันมากๆ ผมยังสังเกตว่าเธอกินช้ามากเพราะเธอเคี้ยวละเอียด แถมไม่ค่อยกินจุกจิกด้วย การโปรโมทซีรีส์ทำให้ผมเรียนรู้เกี่ยวเธอมากกว่าตอนถ่ายทำอีกครับ

MF: คุณทำอย่างไรเวลาที่จะเข้าถึงคาแรกเตอร์
โบกอม: ผมจะอ่านบทซ้ำๆ จนจำขึ้นใจ จากนั้นคุยกับนักเขียนผู้กำกับในด้านต่างๆ ของตัวคาแรกเตอร์ที่ผมสงสัย ผมพยายามเข้าใจอารมณ์และสื่อมันออกมาให้เหมือนที่สุดเท่าที่จะทำได้

MF: ในเรื่องนี้ คุณเล่นเป็นคนอายุ 19 ที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านวัย มองกลับไปตอนที่คุณอายุเท่ากับกวานชิก ซึ่งกำลังเริ่มอาชีพนักแสดงตั้งแต่ตอนนั้น คุณมีประสบการณ์เกี่ยวกับจุดเปลี่ยนของชีวิตแบบนี้บ้างไหม
โบกอม: ครับ ผมรู้สึกเหมือนผมโตขึ้นเมื่อเข้าเอเจนซี่และทำงาน ผมเริ่มออดิชั่นตอนอายุ 17 ได้เดบิวต์ตอน 18 และออกสู่โลกภายนอกในฐานะนักแสดงเต็มตัวเมื่ออายุ 19 หลังจากเรียนจบมัธยม ผมก็ตระหนักว่าผมไม่ใช่วัยรุ่นอีกแล้ว

MF: การมีอายุมากขึ้นทำให้คุณกลัวไหม คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
โบกอม: ผมเชื่อว่าการแก่ขึ้นนั้นมีความสุขอยู่ในทุกช่วง พบเจอประสบการณ์ที่หลากหลายและความท้าทายทั้งเล็กและใหญ่ ถือเป็นการเดินทางในการค้นหาตัวเองและเป็นการเรียนรู้ครับ

MF: อนาคตแบบไหนที่พัคโบกอมเคยจินตนาการเอาไว้
โบกอม: ผมใฝ่ฝันที่จะได้เป็นครูสอนภาษาเกาหลีและนักเปียโน เพราะผมรักถ้อยคำและดนตรี นอกจากนี้เมื่อไหร่ก็ตามที่ขึ้นเครื่อง ผมจะชื่นชมกับความใจดีและเป็นมืออาชีพของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมากครับ จนผมเคยฝันที่จะทำอาชีพนี้เหมือนกัน

MF: มีโมเมนต์ไหนในเส้นทางอาชีพของคุณที่เปลี่ยนทัศนคติการเป็นนักแสดงไหม
โบกอม: การรับบทบาทจากแนวใหม่ๆ เช่นเรื่อง Good Boy เป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่เป็นจุดเปลี่ยนมากครับ ผมได้ขยายขอบเขตความสามารถและรู้สึกขอบคุณมากๆ กับความทุ่มเทของทีมงานที่ผมเคยร่วมงานตั้งแต่เดบิวต์มา เมื่ออายุมากขึ้นผมก็เข้าใจแนวและบทต่างๆ มากขึ้น ผมตั้งตารอที่จะได้รับบทที่ท้าทายมากขึ้นในอนาคตครับ

MF: แล้วในเรื่องชีวิตส่วนตัวล่ะ มีโมเมนต์ไหนที่เปลี่ยนชีวิตคุณ อย่างเช่นตอนที่คุณอยากเป็นนักร้องแต่เลือกที่จะเป็นนักแสดงแทน
โบกอม: การเข้ารับราชการทหารเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตผมครับ เป็นช่วงเวลาที่ให้ผมได้สะท้อนและจัดการความคิดของตัวเองทำให้กระจ่างมากขึ้น ผมรู้สึกว่าผมพร้อมที่จะรับบทที่หลากหลายและท้าทายมากขึ้นหลังจากเข้ากรมครับ

MF: สมมติว่าคุณไม่มีความหลงใหลในดนตรีมาก่อน คุณจะเลือกอะไรระหว่างการเป็นนักร้องนักดนตรีหรือนักแสดง
โบกอม: ผมรักทั้งสองเส้นทางเท่ากันครับ บางช่วงในการแสดงจะยิ่งทำให้อินมากขึ้นถ้ามีดนตรีประกอบ ดังนั้นดนตรีกับการแสดงนั้นเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งครับ สองสิ่งนี้สามารถทำให้คนรู้สึกสบายใจและมีความสุข ผมรักทั้งสองและไม่สามารถเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เลยครับ

MF: คุณรู้สึกอย่างไรเวลาเห็นตัวเองบนจอ
โบกอม: ผมตื่นเต้นครับ ตั้งตารอที่จะเห็นว่าตัวเองกลืนไปกับเรื่องราวอย่างไร

MF: คุณเคยวิจารณ์การแสดงของตัวเองไหม
โบกอม: ตลอดเวลาครับ! ผมจะทุ่มเทเต็มที่เวลาที่แสดงและจะคิดสะท้อนในแต่ละจุดหลังจากนั้น ถ้าบางอย่างมันรู้สึกไม่ใช่ ผมจะจดเอาไว้เพื่อจะได้ปรับปรุงในครั้งต่อไป ถ้ามันออกมาดี ผมก็จะชื่นชมตัวเองเล็กน้อย รวมถึงการขอบคุณผู้กำกับและทีมงานจากใจครับ

MF: อะไรคือคำแนะนำที่ดีที่สุดที่คุณได้รับและมาจากใคร
โบกอม: ให้ “รู้สึกขอบคุณและสนุกไปกับมัน” จากครอบครัวของผมครับ

MF: คอนเซ็ปต์ของการเป็น ‘นักแสดง’ นั้นขยายมากขึ้นเพราะอินเทอร์เน็ต และคุณเคยเข้าร่วมเรียลลิตี้มาก่อน คุณอยากลองการแสดงในรูปแบบอื่น เช่น ไลฟ์สตรีมไหม คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
โบกอม: ผมพูดคุยกับแฟนคลับผ่านไลฟ์สตรีมเป็นครั้งคราว ผมหวังว่าเราจะได้เจอกันอีกในปีนี้ครับ!

MF: มีอะไรที่คุณไม่เคยลองทำและอยากลองดูบ้างไหม
โบกอม: ผมอยากลองไปแสวงบุญดูครับ

MF: คุณคิดว่าคุณเป็นแบบไหน หัวโบราณหรือทันสมัย
โบกอม: ผมว่าน่าจะผสมกันครับ ปกติแล้วผมมักเห็นตัวเองเป็นคนทันสมัย แต่บางครั้งความคิดและการกระทำก็ไม่ได้ทันสมัยเลย

MF: เคยมีช่วงเวลาที่คุณรู้สึกว่าชีวิตส่วนตัวกระทบกับการทำงานบ้างไหม
โบกอม: ไม่นะครับ ผมคิดว่าไม่เคยมี

MF: คุณเพิ่งกลับมากจากการเข้ากรมไม่นานมานี้ การที่ก้าวออกจากสปอตไลท์ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาเป็นปัญหาให้คุณไหม หรือคุณค้นพบความสงบในช่วงเวลานั้น
โบกอม: มันเป็นช่วงเวลาที่สงบสำหรับผมครับ ไม่อยากเชื่อเลยว่าผ่านมาแล้วสามปี ผมรู้สึกมีความสุขที่ได้เจอและรู้จักกับทุกคนในกองทัพครับ

MF: อะไรคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดกับ CELINE
โบกอม: ทุกช่วงเวลากับ CELINE มันน่าจดจำมากครับ ไม่ใช่แค่การเข้าร่วมงานแฟชั่นเท่านั้น ผมยังได้ไปงานเปิดตัวและงานดินเนอร์ที่สถานที่ต่างๆ ผมรักในการพบเจอแฟนคลับทุกครั้งและได้สร้างความทรงจำพิเศษร่วมกับพวกเขาครับ

MF: สรุปแล้วคุณมีอะไรจากฝากกับแฟนคลับไหม
โบกอม: ปีนี้ผมตื่นเต้นมากที่จะได้เข้าถึงแฟนคลับมากขึ้นผ่านซีรีส์ของ Netflix เรื่อง When Life Gives You Tangerines ซีรีส์ของ Amazon Prime Video เรื่อง Good Boy และทอล์คโชว์เกี่ยวดนตรีในรายการ Park Bo Gum’s Cantabile ผมรู้สึกขอบคุณสำหรับความรักและการสนับสนุนมากมายจากทุกคน ปีนี้ผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อตอบแทนความรักที่ทุกคนมอบให้ ขอบคุณและขอให้ทุกคนโชคดีครับ!

  • BY Manfred Lu
  • Creative Direction & Styling Izwan Abdullah
  • Photo Kim Hee June
  • Grooming Lee Go Eun
  • Hair Ji Kyoung Mi
  • Production Kim Mi Kang, MK Visual

More from this stream

Recomended

Seiko นำทีม เปิดศักราชใหม่แห่งเรือนเวลาระดับตำนาน

Seiko แบรนด์นาฬิกาชั้นนำกลับมาสร้างความตื่นเต้นให้วงการอีกครั้ง กับงาน...

KANORI Hand Roll Bar เปิดประสบการณ์คำต่อคำใน “Premium Five“

ในยุคที่ผู้คนใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบและต้องการความสะดวกสบายในทุกด้าน แม้แต่เรื่องอาหารที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการดำรงชีวิต ที่มีความต้องการในอาหารที่ทั้งอร่อย...

Spotify ดึงพลังเสียงดูแลใจ กับกิจกรรม “Pause & Play”

ในยุคที่ผู้คนต้องเผชิญกับความวุ่นวายและเสียงรบกวนรอบตัว การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม หรือที่เรียกว่า...

Holy Night: Demon Hunters

ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ เผยภาพสติลใหม่ภาพยนตร์แนวแอ็คชันระทึกขวัญ...

OMNISCIENT READER: THE PROPHECY

นับถอยหลังสู่หายนะวันสิ้นโลก กับ OMNISCIENT...