Unbounded Unrestrictedness : Bible – Wichapas Sumettiku

Men’s Folio Thailand เปิดศักราชใหม่ไปกับ ไบเบิ้ล – วิชญ์ภาส สุเมตติกุล Cover Star ฉบับแรกของปี 2025 ประจำเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ความหลงใหลและการก้าวไปข้างหน้า ทั้งในวงการการแสดงและชีวิตส่วนตัว

ในโอกาสนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับไบเบิ้ลอย่างใกล้ชิดในช่วงเวลาพักระหว่างการถ่าย Cover แม้ว่าเขาจะอยู่ในชุดที่พร้อมถ่ายทำต่อ แต่บรรยากาศการพูดคุยกลับเต็มไปด้วยความผ่อนคลายและเป็นกันเอง โดยไม่รู้สึกถึงความรีบเร่งใดๆ ซึ่งระยะเวลาเพียงไม่กี่นาทีที่เราได้พูดคุยกัน ทำให้เราได้รู้จักตัวตนของเขามากขึ้น ทั้งในแง่มุมการทำงานและการใช้ชีวิตในแบบที่ผสมผสานระหว่างความสนุกสนานและการใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ทั้งในด้านความหลงใหลในสิ่งที่ทำและความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองไปข้างหน้า

MF: แนะนำตัวกับชาว Men’s Folio Thailand
ไบเบิ้ล: สวัสดีครับผม ไบเบิ้ล – วิชญ์ภาส สุเมตติกุล ครับ

MF: พูดถึงโปรเจกต์ใหม่ “8 Hours”
ไบเบิ้ล: โปรเจกต์ใหม่นี้จะเป็นภาคต่อจาก 4MINUTES นะครับผม ก็จะเป็นซีรีส์ที่ผมกับพี่เจษเล่น เราจะ explore เรื่องราวของความสัมพันธ์ทั้งสองคนเนี้ยคือ หลังจากที่เรื่อง 4MINUTES จบไปแล้วมันเป็นตอนจบคล้ายๆ แบบว่า กึ่ง bittersweet ครับ เราก็อยากรู้ว่าในฐานะคนดูเนี่ย เอ๊ะ แล้วสองคนนี้เค้าจะใช้ชีวิตกันยังไงหลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างมันเกิดขึ้นและผ่านไปแล้วแล้วประสบการณ์ที่ทำให้ชีวิตทั้งสองคนนี้เปลี่ยนไป มันจะ effect เค้ายังไงต่อไป แล้วก็ความสัมพันธ์ของเค้าทั้งคู่มันจะ develop ยังไงต่อครับ

MF: มีบทบาทหรือ Genre ไหนของซีรีส์ ภาพยนตร์ ที่อยากจะลองเล่น
ไบเบิ้ล: จริงๆ อยากลองเล่นทุก genre เลยครับผม เพราะผมรู้สึกว่าทุกครั้งที่ได้เล่นซีรีส์ มันได้เจออะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับเราเอง พูดว่าเป็นแบบทักษะการแสดงก็ได้ จริงๆ ผมเพิ่งเล่นแค่สองเรื่อง แต่ว่าก็โชคดีมากที่เรื่องแรกกับเรื่องที่สองเนี่ยมันได้เล่นแบบคนละบท บทก็จะคนละแนวไปเลย ก็อยากที่จะ explore ไปเรื่อยๆลองบทใหม่ๆ ว่าจะเจอกับอะไรที่มันแหวกแนวไปเรื่อยๆ แล้วผมรู้สึกมันมีแต่ได้กับได้ครับ ถ้าเราลองอะไรใหม่เราไม่ชอบหรือว่าเรารู้สึกว่าเราไม่ถนัด สุดท้ายเราก็ได้ประสบการณ์ เราก็ได้ความรู้ว่าแบบนี้ไม่โอเคนะ แต่ว่าถ้าเราชอบแล้วเราก็จะสามารถ enjoy กับมันได้อีก อนาคตค่อยกลับมาเล่นแบบนี้อีกทีนึงก็ได้ แต่ว่าถ้าพูดง่ายๆ แบบพูดตรงๆ ก็คือ action แหละผมอยากเล่น action เพราะว่าอาจจะเป็น genre ที่จะกลับมาเล่นยากด้วย nature ด้วยธรรมชาติของร่างกายของมนุษย์เราเลย

MF: นอกจากผลงานซีรีส์ มีอะไรที่อยากทำในปี 2025 นี้อีกบ้าง
ไบเบิ้ล: อยากที่จะอยู่บ้านครับผม ก็คือพยายามหา routine หรือว่าพยายามทำให้บ้านมันเป็นที่ที่เรารู้สึกว่าทุกอย่างมันลงตัว คือตอนนี้แบบว่าไม่ค่อยได้อยู่บ้านแล้วก็รู้สึกว่ามันมีหลายอย่างที่เราอยากทำแบบว่าอยากทำสวนหรือว่าเราอยากจัดห้องแต่ว่ามันไม่ได้ทำสักทีเพราะว่าเราหาเวลาหรือว่าเราแบบ make time ไม่ได้เพราะฉะนั้นปีนี้อยากให้อะไรที่ค้างไว้ก็อยากทำให้มันเสร็จเป็น step เราจะได้แบบว่ารู้สึก happy กับบ้านเราที่สุดครับ

MF: Bucket List ที่อยากทำ หรือสิ่งที่ทำสำเร็จไปแล้ว
ไบเบิ้ล: ก็ได้ไปเที่ยวครับผม ได้ไปสกีก็เป็นหนึ่งใน bucket list ของผมที่ได้ไปสกีกับเพื่อนที่สวิตเซอร์แลนด์ แล้วก็อีกอย่างนึงที่อยู่ใน bucket list ก็คืออยากเที่ยวอีกครับ อยากที่จะไปเจอโลกอยากที่จะไปหลายๆ เมืองครับผม แล้วก็อยากที่จะเห็นภาพที่แบบเราไม่เคยเห็นมาก่อนเหมือนแบบพอได้ไปเจอภูเขาที่แบบว่าเต็มไปด้วยหิมะเราเป็นคนไทยมันไม่มีที่บ้านเรา ก็รู้สึกว่าแบบเราโชคดีจังเลยที่เกิดมาได้เห็นอะไรแบบนี้ก็อยากที่จะเจออะไรแบบนั้นอีกไม่ว่าจะเป็นเมืองที่มีป่าหรือว่าวิว แบบวิวธรรมชาติที่บ้านเราไม่มีก็อยากที่จะเก็บภาพไปเรื่อยๆ ที่ที่อยากไปเป็นพิเศษคือผมอยากไป Niagara Falls อยากไป Yellowstone National Park อยากที่จะไป Egypt แล้วก็อยากที่จะไป Norway ครับผม ก็มีหลายที่อยู่ครับ (หัวเราะ)

MF: พูดถึงเรื่องแฟชั่น ปกติสไตล์การแต่งตัวเป็นยังไง
ไบเบิ้ล: ผม casual มากเลยครับผม แต่ปกติจะใส่เสื้อผ้าที่ตัวเองรู้สึกสบาย แต่ว่าถ้าเป็นแฟชั่น ออกงานหรือว่าเสื้อผ้าที่เราต้องเลือกเอง เราก็จะเลือกสไตล์ที่มัน minimal แบบว่า minimal sleek, monotone สไตล์แบบนั้นที่ทำให้เรามั่นใจ ฉะนั้นเราจะชอบแบบนั้นครับ

MF: ไอเทมที่ขาดไม่ได้
ไบเบิ้ล: ผมว่าน่าจะเป็นนาฬิกาครับ ผมรู้สึกว่ามันเป็น accessories ที่ใส่ได้ทุกโอกาส ไม่ว่าเราจะไปฟิตเนส มันมีนาฬิกาทุกประเภทเลย มีหลายประเภท เราก็เลือกใส่ได้แบบว่า ไปว่ายน้ำก็ได้ ไปออกกำลังกาย ไป ออกงานก็ได้ หรือว่าเราใส่กับสูทก็ได้ มันสามารถ dress up แล้วก็ dress down ได้ตลอด

MF: แอบเห็นว่าปกติก็ใส่นาฬิกาในชีวิตประจำวันอยากให้เล่าถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้มาสนใจเรื่องของนาฬิกา
ไบเบิ้ล: จริงๆ ผมมองนาฬิกาว่าเป็น tool watch มาก่อน เพราะว่าตอนนาฬิกาเรือนแรกของผมเป็นนาฬิกาดำน้ำแล้วผมก็มาชอบเกี่ยวกับกลไก mechanic ของมัน แล้วก็พอเข้ามาแล้วก็โดนแบบว่าเหมือนโดนตกหลุมนาฬิกา ตอนนี้ผมพูดไม่ถูกว่าผมชอบเพราะอะไร แต่ตอนแรกชอบเพราะว่า มันเกี่ยวกับ mechanic ของมันนั่นแหละ แบบคนใช้ดำน้ำเขาใช้เพราะอะไร อ๋อเขาใช้จับเวลาในแทงก์ถังออกซิเจน แล้วทีนี้มันต้องแก้ปัญหาอะไรบ้างเพื่อจะให้ตัวนาฬิกามันทนน้ำ หรือว่าทนกับความดันในน้ำ แล้วก็ทีนี้พอมันอยู่ใต้น้ำเขาจะอ่านยังไง ก็ต้องหาวัตถุเรื่องแสงอะไรอย่างเงี้ยครับหลังจากนั้นพอผมเข้าไปลึกๆ เกี่ยวกับการดีไซน์ อันนั้นแค่ประเภทเดียว แต่มันยังมีอีกหลายร้อยดีไซน์ที่มีเหตุผลของมัน ที่มี reason ของมันเอง ที่นักออกแบบเขาคิดค้น หรือวิศวะเขาแก้ปัญหาซึ่งมันเป็นอะไรที่ผมชอบมาก แล้วมันก็เป็นศิลปะในตัวของมันด้วยครับ

MF: นาฬิกาที่ใช่ในแบบของไบเบิ้ล
ไบเบิ้ล: โห อันนี้ยากครับ (หัวเราะ) นาฬิกาที่ใช่ในแบบผมก็จะเป็นนาฬิกาที่มี identity ที่ชัดเจน มันไม่ได้พยายามที่จะเป็นอะไร แต่มันเป็นของมันเลย แล้วมันก็สามารถที่จะเป็นแบบนั้นในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น type ไม่ว่าจะเป็นหน้าปัด หรือว่าไม่ว่าจะเป็น functionality ครับ

MF: แพลนในปี 2025 ของไบเบิ้ล
ไบเบิ้ล: อยากที่จะขึ้นเครื่องบ่อยๆ ผมอยากที่จะไป.. อย่างที่บอกก็อยากที่จะไปหลายเมืองอยากที่จะเห็นอะไรใหม่ๆ เก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ครับ

MF: ฝากผลงาน
ไบเบิ้ล: ก็อย่างที่ได้อธิบายไปตอนแรกก็จะมี 8 Hours ครับผม จะเป็นซีรีส์ต่อจาก 4MINUTES พูดได้ว่าเป็น season 2 ก็ได้ แต่ว่าก็ไม่เชิง แล้วก็จะมี sitcom ของ BE ON CLOUD ครับผม ซึ่งก็จะประกาศเร็วๆ นี้ ก็รอติดตามดูกันนะครับ


MF: มีเวลาว่าง 1 วันจะทำอะไร
ไบเบิ้ล: อยู่บ้านครับ

MF: ย้อนเวลากลับไปได้จะบอกอะไรกับตัวเองตอนเด็ก
ไบเบิ้ล: Enjoy ทุกอย่างที่เราได้ประสบตอนนี้เพราะว่าในอนาคตเราอาจจะมองกลับไปแล้วเรากลับไปเป็นเหมือนเด็กไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นตอนเป็นเด็กก็คือไม่ต้องเครียดไม่ต้องคิดเยอะแค่สนุกกับมัน

MF: หนึ่งสิ่งเกี่ยวกับตัวเองที่คิดว่าคนอื่นไม่รู้ หรือรู้น้อยมากๆ
ไบเบิ้ล: ผมคิดว่าเขารู้แหละแต่ว่าก็ย้ำอีกทีนึงว่าผมก็เป็นคน private มาก แล้วก็สิ่งที่ผมเลือกแชร์คือเป็นสิ่งที่ผมอยากจะแชร์จริงๆ แล้วก็นอกจากนั้นมันเป็นชีวิตที่ผมอยากที่จะ keep private ครับ

MF: ภาพยนตร์ และ ซีรีส์ 1 เรื่องที่ไม่มีวันเบื่อ
ไบเบิ้ล: ยากมากเลยเพราะผมเป็นคนเบื่อง่าย (หัวเราะ) เอาเป็นเรื่องที่ผมน่าจะดูค่อนข้างบ่อยแล้วกัน แต่ว่าไม่กล้าพูดว่าไม่มีวันเบื่อ ถ้าภาพยนตร์ก็จะเป็น Pulp Fiction ครับผม ส่วนซีรีส์ก็ต้องเป็น Friends เพราะผมดูบ่อยๆ ดูอยู่ดูไม่รู้กี่รอบแล้ว น่าจะ 5 – 6 รอบแล้ว ตอนเด็กเนี่ยผมดูเพราะว่ามีหลายคนบอกว่าให้ดูซีรีส์์เรื่องนี้เพื่อจะพัฒนาภาษาอังกฤษ แต่ว่าผมดูไปเพราะผมชอบจริงๆ เพราะว่าผมเป็นคนชอบ comedy แบบ sitcom อะไรง่ายๆ แบบว่าย่อยง่าย ครับผม

MF: 1 คำที่มอบให้กับแฟนคลับ
ไบเบิ้ล: สนุก ครับ

  • Stylist Chanond Mingmit
  • Photo Ponpisut Peejareon

More from this stream

Recomended

ASAHIKAWA SERIES ที่ผสานระหว่างอดีตและความทันสมัยอย่างลงตัว

ปัจจุบันแนวคิดการตกแต่งบ้านแบบ Nostalgia Living กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ทำให้นิยามการแต่งบ้านในยุคนี้ไม่เพียงตอบโจทย์การอยู่อาศัย...

เติมเสน่ห์ให้ลุคด้วย CELINE SPRING 25

CELINE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนปี 2025...

เติมเต็มความสุขทุกวันกับ HOOGA กับ Flagship Store แห่งแรกในไทย

Hooga แบรนด์ของแต่งบ้านชั้นนำจากประเทศสิงคโปร์ ที่นำเสนอเสน่ห์ของสไตล์สแกนดิเนเวียนภายใต้แนวคิด...

Versatile : Pon – Nawasch Phupantachsee

นักแสดงมากฝีมือที่ทุ่มเทให้กับทุกบทบาทและไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ทั้งในโลกการแสดงและสนามกีฬา ไม่ว่าจะเป็นบทบาทที่ต้องใช้ทักษะทางอารมณ์หรือร่างกาย...

TROFI x สยามเซ็นเตอร์ เนรมิตปารีสกลางกรุง!

สุดปัง! กลางกรุงกับสยามเซ็นเตอร์ที่ได้จับมือ โทรฟี่...