เบื้องหลังมิตรภาพสุดเข้มข้นใน ‘High School Frenemy’ พบกับสกาย วงศ์รวี และนานิ หิรัญกฤษฎิ์ สองนักแสดงที่มาถ่ายทอดบทบาทเพื่อนสนิทในคราบศัตรู แบ่งปันความท้าทายทั้งในบทดราม่าและแอคชัน พร้อมเปิดใจถึงคาแรกเตอร์ บทบาทที่แตกต่างจากตัวตนจริง และความสนุกที่ได้เจอกันครั้งแรก
MF: แนะนำตัวกับชาว Men’s Folio Thailand
สกาย: สวัสดีครับ สกาย วงศ์รวี ครับ
นานิ: สวัสดีครับ ผมนานิ หิรัญกฤษฎิ์ ครับ สวัสดีชาว Men’s Folio Thailand ครับ
MF: “High School Frenemy มิตรภาพคราบศัตรู” ซีรีส์เรื่องแรกที่ทั้งสองคนแสดงด้วยกันเป็นยังไงบ้าง
สกาย: สนุกดีครับ ไม่ได้เป็นการทำงานที่ยุ่งยากแค่เหนื่อยครับ
นานิ: สำหรับผมก็สนุกครับ ถ้าพูดถึงการทำงานก็ความลำบากพวกเรื่องของซีนอารมณ์ ดราม่า แอคชัน การจำบล็อกกิ้ง ส่วนพาร์ทเนอร์ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรก็โชคดีที่มีภาพไปด้วยกัน พอเข้าซีนด้วยกันก็เลยเล่นไปด้วยกันได้ง่ายครับ
MF: บทบาทที่ได้รับของทั้งสองคนต่างจากตัวเองไหม
สกาย: ผมเล่นเป็นเซนต์นะครับ คาแรกเตอร์ในเรื่องก็จะเป็นคนที่แบบว่าในอดีตเป็นผู้นำแก๊งก็จะมีความดุความเกรี้ยวกราดปัจจุบันก็จะมีความนิ่งลงมาเพราะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีตว่าการใช้กำลังเป็นสิ่งไม่ดีซึ่งก็จะแตกต่างจากผมเพราะผมเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเรื่องการใช้กำลังในชีวิตจริงเลยครับ เซนต์เป็นคนคิดชั้นเดียวแต่ว่าสกายเป็นคนคิด 129 ชั้น
นานิ: เซนต์เป็นคนคิดชั้นเดียวครับ แต่ว่าสกายคิดชั้นครึ่งครับ ส่วนผมรับบทเป็นชินครับ ชินปัจจุบันจะเป็นเด็กที่มีความฝันที่อยากจะทำตามฝันแล้วก็ไม่ได้เป็นคนใช้กำลังมากแต่เป็นคนคอยห้ามเพื่อนแต่ก็ใช้กำลังในการปกป้องตัวเองกับเพื่อน ๆ แต่ไม่ได้เป็นคนห้าวหาญหรือไม่ได้เป็นคนทิ้งการเรียน มีเป้าหมายคือทำตามความฝันแบบสุดโต่งแบบจะเป็นให้ได้เลย แต่พอวันนึงมันเกิดทำให้ความฝันสลายเหมือนทุกอย่างมันเสียไปก็เลยพลิกกลายเป็นคนใช้กำลังเป็นหัวโจกเป็นผู้นำของอุดรพิทักษ์กลายเป็นคนห้าว ๆ เหี้ยว ๆ ปากไม่ตรงกับใจใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา แล้วก็กลายเป็นคนที่คิดเยอะสังเกตุรอบตัวแคร์กลุ่มเพื่อนมาก ๆ ผมว่าความแตกต่างก็เรื่องของการใช้กำลังเรื่องเอเนอจี้ ตัวละครชินเนี่ยนิ่งมากแต่ว่าก็จะใช้เอเนอจี้อีกแบบกับผมเพราะผมเป็นคนที่โลวเอเนอจี้ เอเนอจี้น้อย พูดเนิบ ๆ ช้า ๆ แต่ชินจะเป็นคนที่แบบพูดห้วน ๆ กระชับ มีพลัง ซึ่งก็ต่างกันรวมถึงเรื่องความก้าวร้าว แต่ก็จะมีเรื่องความเซนซิทีฟที่เหมือนกันก็เลยเข้าใจตัวชินได้ง่าย
MF: เห็นว่ามีฉากที่ต้องต่อสู้ด้วยมีวิธีเตรียมตัวยังไง
นานิ: ก็นอนเยอะ ๆ เก็บแรงครับ (หัวเราะ) ถ้าความจริงฉากต่อสู้พวกเราก็มีไปเรียนซีนแอกชัน เตรียมตัวการรับแอคเตะต่อยแบบนี้นะ การออกหมัดให้ปลอดภัยต้องเป็นแบบนี้ที่ไม่ใช่ต่อยแบบจริง ๆ มีศาสตร์ที่แบบโดนเตะแบบนี้ต้องรับแบบนี้ โดนต่อยแบบนี้ต้องรับแบบนี้ ก็จะมีวิธีของเขา ส่วนความยากก็จะเป็นเรื่องคิวการจำแต่ละหมัด การรับแต่ละหมัด การปัดการหลบซึ่งพอเล่นจริงมันอาจจะไวหน่อยก็ต้องมีสมาธิกับตรงนั้น ถ้าไม่มีสมาธิมันหลุดหรือพลาดไปก็เจ็บตัวได้เลย
สกาย: อย่างเวลารับหมัดอะครับมันต้องจากซ้ายไปขวาต้องผ่านจมูกเราก่อนถึงจะรับแอคได้ไม่งั้นจะไม่สมจริงครับ
MF: สกายห่างหายจากงานแสดงไปถึง 2 ปี กลับมาครั้งนี้เป็นยังไงบ้าง
สกาย: ก็ดีนะครับ ผมรู้สึกว่าการไม่รับทุกปีมันมีข้อดีแต่มันก็มีข้อเสียอาจจะทำให้เราห่างหายจากหน้าจอจากแฟนคลับไปนานหน่อยแต่ว่าข้อดีคือเราได้เลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองกับคนทำคนดูครับ แล้วแต่ละบทบาทผมก็พยายามเลือกให้มันไม่ซ้ำไม่จำเจ ก็เจอพาร์ทเนอร์ที่ดีด้วยช่วยส่งเสริมกัน พอกลับมารอบนี้ก็เลยทำเต็มที่
MF: สำหรับนานิตั้งแต่ F4 จนมาถึง High School Frenemy คิดว่าตัวเองในตอนนี้เปลี่ยนไปยังไง
สกาย: ผมสั้นลงครับ
นานิ: ก็ใช่ครับ สำหรับผมคือเรื่องความคิดเรื่องการแสดงทุกอย่างเลยในระหว่างทางมันได้เจออะไรต่าง ๆ มันได้เจอเรื่องเยอะ ๆ รู้สีกว่าเข้าใจในการทำงานมากขึ้นเพราะตอน F4 เรายังใหม่ระบบการทำงานเรายังไม่รู้ว่าต้องทำอะไรยังไงเตรียมตัวยังไง พอมาเรื่องนี้เราพอรู้เรื่องบ้างแล้วว่าต้องทำอะไรยังไงประมาณไหนเราต้องเล่นยังไง คือเหมือนมันทำให้เราตั้งใจมากขึ้นมีสมาธิมากขึ้นแล้วเราก็รู้สึกว่าผลงานมันออกมาดี เหมือนเราวาดรูปเลยครับเราก็อยากให้รูปเราออกมาสวยที่สุดให้คนเสพแล้วชื่นชอบที่สุดให้เขาเข้าใจในสิ่งที่เราจะสื่อออกไปมากที่สุด รู้สึกว่ามันเปลี่ยนไปเยอะ ทำให้เราตั้งใจมากกว่าเดิม เรารู้สึกได้เลย
MF: ในอนาคตมีบทบาทไหนที่อยากแสดงอีกบ้าง
สกาย: เคยคุยกับนานิว่าอยากเล่นคอมเมดี้ด้วยกัน
นานิ: จริง ๆ ผมกับสกายเคยคุยกันไว้ ด้วยตัวผมเองเล่นแต่บทดราม่ามาตลอดชีวิตเลย ที่เล่นมาก็ดราม่าหนักเลยรู้สึกว่าอยากเล่นอะไรที่มันคอมเมดี้แบบผ่อนคลายเพราะสกายบอกผมว่าผมมีจังหวะที่แปลกคิดว่าน่าจะเป็นอะไรที่ใหม่ ถ้าได้เล่นคอมเมดี้กับสกายก็น่าสนใจเหมือนกันเพราะว่ามีจังหวะนึงที่อยู่ด้วยกันน่าจะมีอะไรที่แปลกใหม่ก็ได้ ก็อยากเล่นอะไรที่มันชิล ๆ
สกาย: ก็นั่นแหละครับ ผมว่าคอมเมดี้มันมีอะไรที่แบบศาสตร์การแสดงค่อนข้างยาก ดูเป็นอะไรที่น่าสนใจดีครับเพราะว่าดราม่าเล่นกันมาค่อนข้างเยอะแล้วขอเปลี่ยนแนวบ้าง
MF: มี Bucket List 1 อย่างที่ต้องทำให้ได้ในชีวิตนี้
สกาย: กระโดดบันจีจัมป์ พาราไกลดิ้ง สกายไดร์ฟวิ่ง ขับเฮลิคอปเตอร์
นานิ: ผมอยากเลี้ยงหมีแพนด้า อยากขี่โลมาครับ แล้วก็อยากมีเสือกับสิงโตเป็นสัตว์เลี้ยงของตัวเอง มันเท่อะถ้ามันย่อส่วนได้อยากให้มันขี่ไหล่ จริง ๆ ผมอยากเป็นศิลปินเต็มตัวแบบ 100 % คำนิยามการเป็นศิลปินของผมคือการที่ทำสิ่งนั้นแล้วทุกคนมีความสุขกับเรา ทุกคนเข้าใจเราไม่ใช่แค่เราที่เข้าใจตัวเอง
MF: พูดเรื่องแฟชั่นบ้าง สไตล์การแต่งตัวของแต่ละคนเป็นแบบไหน
สกาย: แล้วแต่อารมณ์ครับ แต่ถ้าไปออกกองก็สบายไม่เน้น Matching
นานิ: แล้วแต่อารมณ์บางวันก็อยากเป็นมู้ดนั้นมู้ดนี้ การแต่งตัวค่อนข้างฟรีจะแต่งอะไรก็ได้ มันคือตัวเราเอง แต่ถ้าไปออกกองก็เน้นสบายเลย
MF: ไอเทมที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะไปไหนก็ต้องมีชิ้นนี้
นานิ: ของผมเป็นโทรศัพท์ ออกจากบ้านก็พกแค่โทรศัพท์อันเดียวเลยเพราะว่าการจ่ายเงินอะไรต่าง ๆ ก็อยู่ในโทรศัพท์ แต่ก็ต้องใส่เสื้อผ้าออกจากบ้านด้วยนะ (หัวเราะ)
สกาย: ของผมเป็นน้ำเปล่าครับ ต้องกินน้ำเปล่าให้ถึงทุกวันประมาณ 3 ลิตร ไม่งั้นจะอารมณ์ไม่ดี ผมโดนสอนมาตั้งแต่เด็กว่าต้องกินน้ำให้ถึงเท่านี้จะได้มีชีวิตที่สุขภาพแข็งแรงยั่งยืน
MF: ฝากผลงานได้เลยย
สกาย: ขอฝากทุกคนไปดูย้อนหลังได้นะครับกับ High School Frenemy ที่จบไปแล้ว ก็ดูย้อนหลังได้ทาง VIU เป็นเวอร์ชัน Uncut ด้วย ดูจบไปแล้วยังคิดถึงพวกเราก็ดูยาวได้เลยตั้งแต่ Ep 1 – 16 แบบ Full Stop Non Stream
นานิ: ไปดูได้นะครับ High School Frenemy มิตรภาพคราบศัตรู จบไปแล้วแต่ความสนุกความเข้มข้นยังอยู่ในนั้นไม่หายไป ถ้าใครดูแล้วก็มั่นใจว่าจะเป็นซีรีย์ที่พวกคุณจะชื่นชอบอีก 1 เรื่อง จะจดจำไปในความทรงจำเพราะว่าแม้แต่พวกเราก็ยังจดจำเพราะว่าหลายเหตุการณ์ก็เป็นเรื่องที่น่าจดจำสำหรับพวกผม ผมว่าคนดูน่าจะสนุกมากเป็นทวีคูณ ฝากด้วยนะครับ
สกาย & นานิ: ใครดูแล้วก็มาพูดคุยกันได้ติดแท็ก High School Frenemy ในทวิตเตอร์ พวกเราก็ดูติดตามอยู่แล้วว่าคนจะชอบมั้ยนะ ขอบคุณครับ