เพิ่งปล่อยเพลงใหม่ให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงกันไปกับซิงเกิ้ลรับลมหนาวอย่าง “Winter Time” ใกล้ถึงเดือนแห่งความรักสองหนุ่มเลยแวะมาเติมความอบอุ่นด้วยเรื่องรักฉบับ Gen Z ที่อ่านแล้วต้องแอบจิกหมอนเบาๆ
MF : หลังจากปล่อยเพลงไปแล้วช่วงนี้สองหนุ่มทำอะไรกันอยู่บ้าง
THI-O : ส่วนตัวผมกำลังทำเรื่องเข้ามหาวิทยาลัยครับ กะไว้ว่าอยากเข้ามหาวิทยาลัยที่อเมริกาช่วงนี้ก็เลยตั้งใจเรียนครับ ตอนมีเวลาพักก็ออกกำลังกาย แล้วก็เล่นเกมครับ
TUTOR : ของเตอร์อยากเข้ามหาวิทยาลัยในไทยครับ แต่ยังไม่ค่อยกล้าบอกชื่อเท่าไรกลัวไม่ติดครับ (หัวเราะ) อยากเรียนด้านการแสดงครับ

MF: ว่าด้วยเดือนแห่งความรักขอเข้าเรื่องรักๆ หน่อยก็แล้วกันเรารู้ว่าทั้งคู่ต้องโสดอยู่แล้วแหละ แต่ว่ามีคนคุยบ้างไหม
THI–O– TUTOR: ไม่มีด้วยครับ
MF : เล่าโมเมนต์สุดโรแมนติกที่เราเคยมีประสบการณ์ให้ฟังหน่อย
“น่าจะแบบเดินเล่นด้วยกันตอนกลางคืน รู้สึกเหมือนฉากในหนังครับ ผมรู้สึกว่า การที่อยู่ด้วยกันสองคนเงียบๆ มันเป็นอะไรที่โรแมนติก น่าจดจำดี”
THI-O
TUTOR : ล่าสุดเลยที่คิดว่า น่าจะโรแมนติกและน่าจดจำคือ งานละครของโรงเรียนครับ เป็นงานใหญ่มากๆ คนทำกับเพื่อนๆเยอะมาก แล้วพอเราขึ้นไปบนเวทีพร้อมกันตอนฟินาเล่ทำให้รู้สึกว่า มันเต็มไปด้วยความรักจากเพื่อนๆ ที่ตั้งใจทำงานนี้ขึ้นมา
THI-O : ขอเล่าอีกเรื่องหนึ่งได้ไหมครับ ตอนที่ผมกลับไปกระบี่ แล้วยายทำผัดผักบุ้งอร่อยมากให้เราทาน มันก็เป็นโมเม้นต์ที่น่าจดจำนะ เหมือนเราได้ย้อนยุคไปตอนเด็กๆ ที่เราได้กินอาหารที่ยายทำ แล้วมันมีคอนเทนท์หนึ่งที่ผมได้ไปฟาร์ม ได้ทำกับข้าวเอง ผมเลยพูดในคลิปว่า นึกถึงอาหารที่ยายทำให้ แล้วพอคุณยายได้ดู คุณยายก็บินมาจากกระบี่แล้วก็มาทำผัดผักบุ้งให้ ผมว่า นี่คือความโรแมนติกอย่างหนึ่งนะ


MF: งั้นถ้าเป็นเรื่องมุมมองความรักแนวแบบกุ๊กกิ๊กๆสมัยเด็กๆเคยไปแอบชอบใครหรือว่ามีใครมาแอบชอบไหม
THI–O : ก็มีครับ
TUTOR : เค้าไปชอบยูหรือยูไปชอบเค้าครับ
THI–O : ทั้งสองอย่าง (หัวเราะ) แต่เค้าก็น่าจะชอบผมเหมือนกัน ตอนเค้าเข้ามาคุยผมก็ไร้สมองนิดนึง ไม่ได้คิดว่าเค้าชอบเราด้วย
“น่าจะช่วง ม.1 ผมชอบรุ่นพี่ ม.4 คนนึง เราก็ทัก Good Morning เค้า เวลาเจอก็แบบทักทายปกติ เค้าก็แบบ “Morning น้อง” ก็แค่นั้นครับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนั้นหัวเกรียนด้วยครับ ก็เลยทำไรไม่ค่อยได้ (หัวเราะ)
TUTOR



MF: แล้วตอนนี้ยังชอบรุ่นพี่เหมือนเดิมไหม
TUTOR : ตอนนี้ไม่มีสเป็กตายตัว ถ้ารู้สึกถูกใจก็ชอบ
THI–O : ผมไม่เคยชอบรุ่นพี่ครับ แล้วก็ไม่เคยชอบรุ่นน้องเหมือนกัน น่าจะชอบคนรุ่นเดียวกัน ถ้าจำไม่ผิด เขาก็อยู่ห้องผมนี่แหละครับ ผมก็เล่นๆ energetic ในแบบของผม เค้าก็ไม่น่าจะเคยชอบผมเหมือนกัน ผมน่าจะพูดมากเกินไปน่ะครับ ชอบพูดไปเรื่อยเปื่อย แล้วเค้าไม่น่าจะเข้าใจผม
MF: เค้าไม่รู้ตัวว่าเราชอบเหรอ
THI-O : อืม…ไม่รู้ตัวครับ เค้าแค่บอกว่า ตาผมสวย ผมก็แบบว้าววว… นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนชมผม ก็เลยรู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้แบบแปลกๆ ดี ก็เลยสนใจเค้า แต่สุดท้ายเค้าก็ไม่ได้ชอบผมครับ

MF: ถ้ามีคนมาแอบชอบเรารู้สึกยังไงคิดว่าเราชอบเขากลับไหมหรือเราเขินๆเฉยๆหรือเราเป็นฝ่ายชอบเขามากกว่า
TUTOR : แล้วแต่คน หมายความว่า ก็รู้สึกดีที่มีคนมาชอบเรา ทำให้รู้สึกดีที่เราก็มีข้อดีเหมือนกัน แต่ก็ต้องดูก่อน สแกนก่อนว่าเป็นไง
THI–O & TUTOR : ลองคุยก่อนประมานนั้น (พูดพร้อมกัน)
TUTOR : ไม่ได้หมายความว่าเขาชอบมาแล้วต้องชอบกลับ มันต้องใช้เวลา
THI–O : ส่วนตัวคิดว่าเหมือนติวเตอร์ครับ พูดได้แบบหลายทาง บางคนก็จะเห็นด้วยกับผม หรือก็ไม่เห็นด้วยกับผม ถ้าเขาชอบเขาสนใจก็แบบลองคุยได้ แต่ว่า ถ้าหลังจากนั้นไปต่อไม่ได้ ก็ No ไม่ต้องรอให้ตัวเองชอบเขาก่อนเพื่อจะเริ่มคุย ต้องลองทำความรู้จัก อาจจะได้เพื่อนดีๆก็ได้ แทนที่แบบจะเป็นแฟนกัน

MF : เวลาผิดหวังชอบใครแล้วเขาไม่ชอบกลับมีวิธีจัดการกับสถานการณ์ยังไง
THI–O : Move on แต่งเพลง ระบายเขียนลงกระดาษ โน้ตลงโทรศัพท์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ทำให้เข้าใจตัวเองมากขึ้น แต่งเพลงไปบางทีก็ทำให้ลืมเวลา อยู่กับงานหรือออกไปสนุกกับงานก็ทำให้ลืม เป็นแบบ Timezone ที่สวยงาม แต่งเพลงไปก็มีอารมณ์ร่วมไปกับเพลง ผมว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดีนะในก่อให้เกิดความรู้สึกในเพลงที่เราแต่งออกมา
TUTOR ก็คล้ายๆ กัน เพลงที่แต่งมา ทั้งที่เคยปล่อยแล้วและก็เก็บไว้ในโน้ตของตัวเอง
THI–O : เหมือนเป็นPrivate Diary ไม่ได้ลบทิ้ง ทุกอย่างเป็นประสบการณ์ หยิบมาใช้ได้ตลอด
MF : เพลงที่แต่งเวลาอินเลิฟกับอกหักต่างกันไหม
THI–O : สำหรับผมต่างกันครับ ต่างกันในจุดเริ่มต้น พอ Heartbreak ก็จะเศร้านิดนึง มีฟีลแบบด่าเขานิดนึง พอเปนเพลงรักก็แฮปปี้ครับ แต่แต่งเพลงอกหักได้ง่ายกว่า เพราะเป็นความรู้สึกที่ค้นคว้าได้ง่ายมาก เป็น Topic ที่ Explore ได้ในหลายๆด้านมาก เลยรู้สึกว่า น่าจะแต่งเพลงเศร้าได้ง่ายกว่า
TUTOR : การใช้คำมันจะง่ายกว่าสวยกว่าด้วย

MF: มีเพลงรักที่ฟังแล้วอินไหม
THI–O : ตอนนี้มี 2 เพลงที่ฟังแล้วอิน เพลงแรก Prettiest To Me ของ HYBS เพลงนี้หมายถึง เพลงที่นักร้องบอกกับแฟนเขาว่า อาจจะไม่ได้สวยสุดในสายตาคนอื่น แต่สวยสุดในสายตาเขา โรแมนติกมาก ชอบมาก เพลงที่สอง A Song for You ของ Donny Hathaway เป็นเพลงที่สวยงาม ประมาณว่าอยากร้องเพลงนี้ให้คุณตลอดไป มันโรแมนติก ช่วงนี้ผมอินกับโรแมนซ์มาก เพราะมันจะเดือนกุมภาพันธ์แล้ว
TUTOR : เพลง Understand ของ Keshi ไม่ใช่เพลง falling in love อะไร แต่เป็นเพลงที่จะอยู่กับคนนั้นไปตลอด ก็เลยเป็นเพลงที่สวยงาม
MF: มีเพลงที่อยากเต้นกับคนที่ชอบไหม
THI–O & Tutor : พี่คงจะอยู่ไม่ได้เเล้วถ้าไม่มีหนูคืนนี้ยังไงก็นอนไม่หลับอยากคอลหาสักทีได้ไหมตอนไหนที่หนูมีเวลา ~ (ทั้งคู่ร้องพร้อมกัน)
THI–O : ชื่อเพลง “พี่ชอบหนูที่สุดเลย”ของพลเชษฐ์ครับ
TUTOR : ส่วนของผมคือเพลง Perfect Night ของ LE SERAPHIM


MF: สเป็กที่เห็นแล้วแพ้ทางเห็นแล้วรู้สึกแบบชอบถูกชะตา
THI-O : หน้าผากใหญ่ ผมยาวและทำสีผม ชอบคนจมูกโด่ง ตาโต ส่วนมากก็จะดู Personnality ไว้ก่อน
TUTOR : แต่งตัวดี มีสไตล์ อาจจะไม่ต้องสวยน่ารัก แค่มี Personnality และมีสไตล์มาก่อน
MF: สุดท้ายแล้วความรักคือ…
THI–O : ความไว้วางใจกัน เชื่อใจกัน เพราะทุกอย่างของความรักคือความเชื่อใจ
TUTOR : ใช่ครับ ความเชื่อใจ และไว้ใจกัน ไม่ว่าจะเป็น เรากับสัตว์เลี้ยง ครอบครัว หรือเพื่อน มันก็คือความรักทั้งหมด
ก่อนเข้าสู่เดือนแห่งความรักอย่างเป็นทางการทั้งสองหนุ่มฝากบอกว่า คอยติดตามได้ใน IG : tutor_vm กับ IG : thiothamm และ Youtube ช่อง 2FLOW Entertainment ไว้ให้ดี น่าจะมีคอนเท็นต์พิเศษๆ ออกมาให้ได้ติดตามกันเร็วๆ นี้
Photographer: @thanut_do
Location: @thesalilhotelriversidebangkok