Studio Wabi Sabi : นิว – ศิวัจน์ สวัสดิ์มณีกุล

‘ไม่ต้องสมบูรณ์แบบแต่ก็สวยงาม’ นิว ศิวัจน์ สวัสดิ์มณีกุล กับประสบการณ์การเดินทางจากความชื่นชอบสู่จุดเริ่มต้น.นการก่อตั้ง Studio Wabi Sabi
และการสร้างซีรีส์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

MF: แนะนำตัวกับชาว MF
นิว: สวัสดีครับ ผม นิว ศิวัจน์ สวัสดิ์มณีกุล ผู้กำกับ และผู้ก่อตั้ง Studio Wabi Sabi ครับ

MF: เรื่องราวจุดเริ่มต้น แรงบันดาลใจที่ทำให้ก่อตั้ง Studio Wabi Sabi ขึ้นมา
นิว: จุดเริ่มต้นเกิดมาจากความชอบดูหนัง เมื่อก่อนจะชอบผู้กำกับท่านนึงก็คือ พี่ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์ ตั้งแต่สมัยปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่นแล้วก็เป็นจุดเปลี่ยนให้เรามาเรียนในสายนี้ พอเรียนจบมาก็ยังชอบผลงานเขาอยู่ตอนนั้นก็เป็นเรื่องฮอโมนวัยว้าวุ่น ซึ่งก็เลยมีความรู้สึกว่าอยากลองทำชิ้นงานที่เป็นของตัวเองบ้างเหมือนกัน ก็เริ่มจากไปทำตัดต่อบ้าง ไปฝึกงาน ไปทำผู้ช่วยผู้กำกับ แล้วก็เลือกที่จะเปิดสตูเป็นของตัวเอง ตอนนั้นก็มีเรื่องของภาษีเข้ามาเกี่ยวเรื่องการบริหารการเงินก็เลยเลือกเปิดบริษัทครับ

MF: ชื่อและนิยามของ Studio Wabi Sabi
นิว: ชื่อ Studio Wabi Sabi มาจากพี่ผู้กำกับที่เราเคยร่วมงานด้วยเขาตั้งให้จริงๆ เขาส่งมาให้ 3 – 4 ชื่อ แต่ว่าเราถูกใจชื่อนี้ที่สุดแล้วพอเราไปหาความหมายมันก็ดีเนาะแบบไม่ต้องสมบูรณ์แบบแต่ก็สวยงามได้ก็เลยเป็นที่มาของชื่อส่วนนิยามเราไม่เคยคิดมาก่อนเลยเป็นความรู้สึกแบบว่าเราไม่ได้เป็นบริษัทที่เพอร์เฟ็กต์ครับ คือเราทำงานภายใต้สิ่งที่เรามีกับความต้องการของกลุ่มทาเก็ตที่เรานำเสนอมันก็เลยกลายเป็นความพอดี

MF: การเติบโตของวงการซีรีส์วายในประเทศไทย และทิศทางในอนาคต
นิว: ถ้าพูดถึงตั้งแต่วันแรกของซีรีส์วายเลย ที่เป็น Genre วายจริงๆ ก็คือ Love Sick ที่เป็นเรื่องแรกจากวันนั้นจนถึงตอนนี้คือเติบโตเกือบจะ 100 เท่าได้เลย เพราะสมัยนั้นมีแค่ 1 เรื่องต่อ 1 ปี พอมาปัจจุบันมันปีนึงมีเป็นหลักร้อยแล้วซึ่งมันเป็นจำนวนต่อปี มันกำลังเติบโตมากๆ และที่สำคัญคือสื่อหลักสื่อใหญ่ก็เริ่มหันมาทำซีรีส์วายมากขึ้นทิศทางในอนาคตน่าจะมีการแข่งขันกันสูงขึ้นแต่ว่าพอมีชิ้นงานให้ดูเยอะคนดูก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกเยอะเหมือนกัน ทำให้การแข่งขันในแง่ของ Quality, Production ก็ต้องเติบโตตามไปด้วยก็อาจจะทำให้ผู้อยู่รอดมีจำนวนลดลง เพราะทุกปีก็จะมีผู้จัดหน้าใหม่ขึ้นมามีทั้งประสบความสำเร็จ และถ้าไม่ประสบความสำเร็จก็ล้มหายตายจากกันไป ก็จะค่อยๆ ถูกคัดกรองกันไป Quality ของซีรีส์ก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ

MF: ในฐานะ CEO และ ผู้กำกับ เผชิญกับความท้าทายอะไรบ้างในช่วงเริ่มต้น
นิว: ความท้าทายคงหนีไม่พ้นเรื่องการบริหารจัดการ มันเรียกได้ว่าคนละสายกันเลยระหว่างสายบริหารกับสายศิลป์ ซึ่งกลายเป็นว่าเราจะต้องมานั่งบริหารจัดการบริษัทเอง ต้องดูการคาดการ งบประมาณ การบริหารจัดการคน เป็นสิ่งที่เราไม่เคยเรียนและไม่เคยทำมาก่อนมันก็จะเป็นความท้าทายในด้านนี้มากกว่า กับการจัดการบริหารเวลาเพราะว่าเวลาเรากำกับทีนึงมันแทบจะใช้เวลาทั้งหมดในช่วงของการทำงานไปกับการโฟกัสเรื่องการกำกับมากกว่าแต่ว่าในพาร์ทของออฟฟิศมันก็ต้องถูกรันต่อไปเรื่อยๆ มันก็เลยเป็นความท้าทายในส่วนนี้ครับ

MF: สําหรับโปรเจกต์ในอนาคตมีเรื่องไหนหรือศิลปินท่านไหนที่เราอยากร่วมงานด้วยเป็นพิเศษไหม
นิว: ถ้าพูดถึงโปรเจกต์ก็คงอยากทำเรื่องเขตเคียงดาวครับ เป็นนิยายมาก่อนเป็นนิยายดราม่าก็เป็นแนวที่ถนัดแล้วในช่วง 1 – 2 ปีนี้เราห่างหายจากการทำดราม่ามาสักระยะก็เลยรู้สึกอยากกลับไปทำดราม่าสักเรื่องแบบเข้มๆ หน่อย ส่วนนักแสดงมีหลายท่านที่เราอยากร่วมงานด้วย หลักๆ ก็จะเป็นนักแสดงจากนาดาวเรารู้สึกว่าน้องๆ มี Potential มีความสามารถ เราอยากทำงานกับคนเก่งๆ มากๆ แต่ถ้าไม่ใช่ทางฝั่งนาดาวก็อยากทำงานกับ กัน อรรถพันธ์ เพราะน้องเป็นสายการแสดงจ๋ามากๆ แล้วเรารู้สึกว่าเราเล่นอะไรกับน้องได้เยอะในสายของการแสดงหรือการเค้นอารมณ์น้องน่าจะเอาอยู่ อีกคนคือน้องข้าวตัง

Studio Wabi Sabi มาจากพี่ผู้กำกับที่เราเคยร่วมงานด้วยตั้งให้เราถูกใจชื่อนี้ที่สุดแล้วพอเราไปหาความหมายมันดี

“ไม่ต้องสมบูรณ์แบบ
แต่ก็สวยงามได้”

MF: มีวิธีการคัดเลือกซีรีส์หรือนักแสดงยังไงบ้าง
นิว: ซีรีส์เริ่มจากเรื่องที่เราสนใจอยากจะทำก่อนเลย มันจะมีแบบโยนมาว่ามีเรื่องนี้อยากทำมั้ยถ้ามันไม่น่าสนใจเราก็จะแบบปฏิเสธไปไม่เอาดีกว่า ส่วนใหญ่ถ้าทำก็จะเลือกจากเรื่องนี้น่าทำจังเลยเรื่องนี้น่าสนุกเรื่องนี้อยากทำอยากนำเสนอเรื่องนี้ส่วนนักแสดงถ้านิวมีสิทธิ์เลือกเองก็จะเลือกคนที่ค่อนข้างตรงกับคาแรกเตอร์ในเรื่องเป็นหลัก จะไม่ฝืนไม่ยัดเยียดเพราะสุดท้ายพอมันไม่ใช่ตั้งแต่หัวทำไปมันก็ไม่มีทางใช่ถึง 100 แน่ๆ

MF: นักแสดงคนไหนที่รู้สึกประทับใจที่สุดตั้งแต่ทำซีรีส์มา
นิว: มีประทับใจหลายคนเลยแต่ถ้าเลือกได้ 1 คน คงเลือกเป็น เพิร์ธ ธนพนธ์ จากเรื่องบังเอิญรัก คือน้องเพิร์ธเป็นเด็กคนแรก ๆ ที่เริ่มทำงานด้วยแล้วน้องเริ่มกับเราตั้งแต่ศูนย์ ตั้งแต่ไม่กล้าสบตากับผู้เล่น ไม่กล้าเข้าใกล้คนที่เล่นด้วย ตั้งแต่ให้ลองแสดงคือถ้ายืนคู่กับผู้เล่นอีกคนน้องจะถอยหลังไม่กล้าสบตาตลอดเวลาจนตอนนี้น้องมีความสามารถขนาดนี้เราก็ภูมิใจกับน้องแล้วก็ดีใจที่เห็นว่าเติบโตจากวันนั้นจนปัจจุบันน้องโตขึ้นมาก ล่าสุดที่ได้คุยกันน้องก็พูดมาประโยคนึงว่า ผมยังทำตามสิ่งที่พี่สอนตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้อยู่เลย เราเลยแบบรู้สึกประทับใจจังเลยที่น้องยังจำสิ่งที่เราสอนได้ ยังใช้สิ่งที่เราสอนให้เขาใช้ชีวิตในการทำงานตรงนี้ได้

MF: ในอีก 5 – 10 ปีข้างหน้า Studio Wabi Sabi กำลังทำอะไรอยู่
นิว: จริง ๆ มีแพลนที่จะขยายให้โตขึ้นรวมถึง Branding ด้วย อยากให้สตูดิโอของเรา Branding แข็งแรงมากขึ้น มีภาพจำมากขึ้น รวมถึงขยายสิ่งที่ทำมากขึ้นครับ คือปัจจุบันเราโฟกัสซีรีส์ ผลิตพร้อมกันได้ทีละ 1 เรื่อง หมายถึงพร้อม ๆ กันคือจบ 1 เรื่อง ค่อยเปิดอีก 1 เรื่องได้ อยากขยายการผลิตมากขึ้น อยากสร้างทีม อยากสร้างผู้กำกับที่ทำไปพร้อมกันได้ แล้วก็อยากทำ Content ที่มัน Overall มากขึ้น นอกจากซีรีส์เราอยากทำฝั่ง Event อยากทำ Marketing อยากทำ Content ออนไลน์มากขึ้นครับ

MF: สิ่งที่อยากจะเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาให้ดีขึ้น
นิว: สิ่งที่อยากพัฒนาก็คือ Quality ครับ เพราะว่าหลายครั้งที่เรากลับไปดูงานตัวเองมันจะมีบางอันที่เราอยากทำให้มันดีกว่านี้แต่ด้วยงบประมาณสิ่งที่เราได้มาก็พยายามอยากจะพัฒนา Quality ให้มากขึ้นแล้วก็อยากทำ Content ให้มันโตขึ้นครับ

MF: ฝากถึงคนรุ่นใหม่ที่อยากเข้ามาทำงานตรงนี้
นิว: ไม่อยากให้มองว่าการเข้ามาทำงานตรงนี้คือเข้ามาเพื่อใกล้ชิดกับศิลปิน มันคือสายงานอาชีพนึงที่อยากให้ทุกคนเคารพในสายงานอาชีพของตัวเองให้มากๆ ครับ เอาจริงๆ เด็กรุ่นใหม่หลายคนเข้ามาเพราะอยากใกล้ชิดศิลปินดาราที่ชื่นชอบแต่ว่าไม่ได้มี Passion หรืออยากเล่าเรื่องราวหรือนำเสนอหรืออยากสร้างสรรค์ผลงานให้มันต่อยอดหรือพัฒนาได้จริงๆ อยากให้ทุกคนเห็นคุณค่าของอาชีพตรงนี้มากๆ ครับ


PHOTO MANOSIT BOONNON


More from this stream

Recomended

สำรวจจักรวาล Resident Evil ตามลำดับเหตุการณ์

ย้อนรอยเรื่องราวจาก Spencer Mansion...

aespa ณ เวิลด์ทัวร์ครั้งที่สามในประเทศไทย 2025 aespa LIVE TOUR – SYNK : aeXIS LINE – in BANGKOK

SM True วาดเส้นทางใหม่เชื่อมโยงกับเกิร์ลกรุ๊ปศูนย์กลางแห่งความนิยมระดับโลก...

จากห้องเสื้อกูตูร์สู่ร้านน้ำหอมสุดล้ำสมัย ในสไตล์ Balenciaga๒

Balenciaga ได้สร้างหมุดหมายสำคัญครั้งใหม่ให้กับโลกแห่งศิลปะและแฟชั่น เมื่อร้านน้ำหอมแห่งใหม่ของแบรนด์ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ...