Resolute : Son – Yuke Songpaisan

ชายผู้ทุ่มเทกว่าครึ่งชีวิตเพื่อพัฒนาฝีมืออย่างไม่หยุดยั้ง สน ยุกต์ พิสูจน์ตัวตนในทุกบทบาทด้วยหัวใจที่กล้ารับฟัง และพร้อมก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ใน ‘Shine’ Original Gay Series เรื่องแรก

MF: แนะนำตัวกับ Men’s Folio Thailand
สน: สวัสดีครับ ผม สน ยุกต์ ส่งไพศาล ครับผม

MF: พูดถึงซีรีส์ ‘Shine’
สน: ซีรีส์เรื่อง Shine ก็เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ผมภูมิใจมากๆ นะครับ แล้วก็เป็นการเข้ามาเล่นซีรีส์เต็มตัวครั้งแรกของผมซึ่งการแสดงก็จะ realistic ต่างจากที่ผมเคยเล่นมาทั้งหมดเลยครับ

MF: เล่าถึงบทบาทที่ได้รับ
สน: ผมรับบทเป็นพันเอกไกรเลิศนะครับ เป็นนายทหารหนุ่มที่มียศทางการเมืองดูภายนอกเป็นคนสุขุม เป็นคนน่าเกรงขาม แต่ว่าจริงๆ แล้วก็มีความสุนทรีย์ของเราอยู่ครับ

MF: ซีรีส์เกย์เรื่องแรกเป็นอย่างไรบ้าง
สน: ซีรีส์เกย์เรื่องแรกก็เป็นอะไรที่เปิดโลกของผมเหมือนกันนะครับ แต่ถ้าถามว่ายากไหมผมว่ามันไม่ได้ยากเลย เราแค่มองข้ามกายภาพไปครับ จริงๆ เวลาผมเล่นละครที่ผ่านมาทั้งหมดผมก็คือ หนึ่งจิตวิญญาณคุยกับหนึ่งจิตวิญญาณอยู่แล้ว ไม่ได้บอกว่าต้องเป็นเพศไหนครับ ซึ่งสำหรับซีรี่ส์เกย์นี่ก็เหมือนกันผมแค่เล่น 1 soul คุยกับ 1 soul ก็เหมือนกันครับ เราแค่มองข้ามเรื่องเพศสภาพไป

MF: ความท้าทายในการเล่นของซีรีส์เรื่องนี้
สน: ความท้าทายจริงๆ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเป็นความชายชายเลยครับ แต่เป็นการแสดงที่ผมจะต้องปรับ mindset มันต้องจริงมากๆ เรียลมากๆ ผมต้องฟังจริงๆ เห็นจริงๆ อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับโมเมนต์นั้นจริงๆ ครับ ซึ่งเรื่องมุมกล้องเรื่องปัจจัยภายนอกคือเป็นเรื่องรอง เรื่องหลักคือการแสดงที่มันต้องสมจริงมากๆ ผมก็ต้องปรับเรื่องนี้ เรื่องความลึกของตัวละครผมเตรียมข้อมูลมาเยอะมากๆ เลย กว่าจะมาเทียบที่เห็นบนจอคือจริงๆ ผมทำการบ้านมาตั้งแต่พันเอกไกรเลิศเขาเด็กๆ เลยว่าเขาเจออะไรมาบ้าง ผ่านยุคสงคราม ผ่านอะไรมาบ้าง เขาถึงถูกหล่อหลอมให้กลายเป็นคนแบบนี้ก็เป็นความท้าทายที่ต้องทำการบ้านให้หนักมากๆ ครับ 

MF: ความแตกต่างระหว่าง ‘ละคร’ กับ ‘ซีรีย์’ 
สน: อย่างที่บอกครับว่าละครคือด้วยความที่ว่าเมื่อก่อนมันเป็น 3 กล้อง มัน fix ว่าเราจะต้องเดินไปตรงนี้ หยิบจับคุยตรงนี้ หันหน้าฝั่งนี้นะ ก็เป็นอะไรที่มันเป็นอีกศาสตร์นึง ถามว่าผมสนุกไหมผมสนุกทั้งคู่นะครับ มันก็มีความท้าทายของมันทั้งคู่ แต่ปัจจุบันพอได้มาเล่นซีรีส์ที่มัน realistic จริงๆ จังๆ ผมรู้สึกว่าตอนปัจจุบันผมชอบฝั่งนี้มากกว่าครับ 

MF: มีบทบาทไหนที่ทำให้เราเปลี่ยนวิธีการคิด การใช้ชีวิตบ้างไหม
สน: จริงๆ ทุกบทบาทในชีวิตผมมันก็ค่อยๆ หล่อหลอมให้เป็นผมในวันนี้นะ เพราะว่าทุกๆ เรื่องมันมีคติสอนใจอยู่แล้ว คนดีทำดีได้ดี คนชั่วทำชั่วได้ชั่วใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้นทุกๆ เรื่องมันก็ค่อยๆ หล่อหลอมให้ผมกลายเป็นคนที่ดีขึ้น ได้เห็นมุมมองของชีวิตคนอีกประเภทนึง ซึ่งถ้าเป็นชีวิตจริงผมอาจจะไม่เคยได้ไปสัมผัส แต่พอต้องมาสวมบทบาทเป็นคนๆ นั้น อยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนั้นทำให้ผมเข้าใจคนมากขึ้นนะครับ ก็ทุกเรื่องจริงๆ รวมถึงเรื่องนี้ด้วยก็ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากตัวละครพันเอกไกรเลิศครับ

MF: ความกดดันหรือคำวิจารณ์ จัดการกับมันยังไง
สน: จริงๆ ผมเป็นคนที่มีคำวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดครับ เพราะว่าด้วยความที่เราไม่เข้าใจการแสดงเลยตั้งแต่เข้าวงการก็ถือว่าเป็นคนโชคดีคนนึงแล้วกันที่ได้เข้ามาโดยที่ต้องปรับปรุงฝีมือเยอะครับ ผมก็ใช้เวลาในการเรียนรู้ แล้วก็เทคไปหลายคอร์ส ประสบการณ์ที่ผ่านมาตลอด 18 ปี ครึ่งชีวิตของผมมันก็ทำให้ผมค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ จนวันนี้ผมพูดได้เต็มปากว่าผมคือนักแสดงที่ผมรักการแสดงจริงๆ ผมเป็นนักแสดงที่ ต้องการเป็นคนที่ professional ครับ แล้วก็สามารถสื่อสารผ่านการแสดงให้มันสมจริงให้กับคนดูได้อินไปกับบทบาทของผมจริงๆ ได้ครับ ทุกคำวิพากษ์วิจารณ์ผมก็เก็บมาตั้งใจฟังดีๆ ว่าในคำพูดที่เขาพูดมาทั้งแรงทั้งเบาก็มาดูว่าจริงๆ เนื้อของมันเขาต้องการจะสื่อสารอะไร บางอันที่มันทำให้เราเสียกำลังใจโดยที่อาจจะพูดมาโดยที่ไม่มีมูลเราก็มองข้ามไป แต่อันไหนที่ถึงแม้ว่ามันจะแรงแต่มันมีคำสอนอยู่ข้างในนั้นก็ต้องลองหามาให้เจอ จริงๆ ผมต้องขอบคุณนะ ขอบคุณทุกฟีดแบค ไม่ว่าจะรุนแรงหรือจะเบาๆ มันทำให้ผมได้เห็นตัวเองจากมุมมองอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งถ้าผมมองตัวเองผมคงมองไม่เห็นครับ

MF: สนยุกต์ในวันแรกกับสนยุกต์ในตอนนี้แตกต่างกันยังไง
สน: แตกต่างกันที่วุฒิภาวะครับ พูดตรงๆ ว่าตอนผมอายุ 18 เข้าวงการมาผมเป็นอีกคนนึงเลย ผมเป็นเด็กวิศวะ ผมจะสายลอจิกมากๆ ผมไม่เข้าใจการแสดง ผมไม่เข้าใจอารมณ์ของคน ตอนนั้นผมเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์เหมือนกับว่าเราถูกหล่อหลอมมาด้วยการเรียนด้วยครอบครัวคนจีนครับ คือผมก็จะเป็นคนที่นิ่งๆ แต่ว่าทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าผมเปิดเซนส์ sense เปิดความ sensitive ของผมไปเยอะมากๆ แล้วก็สามารถนำมันมาใช้งานกับวงการบันเทิงได้อย่างดีมากขึ้นครับ 

MF: นิยาม ‘การเติบโต’ ในแบบของสนยุกต์
สน: การเติบโตของผมไม่ใช่เติบโตแค่อายุหรือว่าสภาพร่างกายนะ สำหรับตัวผมเองผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองแก่นะครับ เพราะว่าผมรู้สึกว่ายังมีอะไรที่ผมไม่รู้อีกเยอะ ผมยังอยากเติบโตไปอีกไกล ถ้าเรามองว่าเราโตแล้วเรารู้แล้วรู้ทุกอย่างแล้วมันก็คือเหมือนน้ำเต็มแก้วเราก็พร้อมจะร่วงโรยไปครับ แต่ถ้าเรายังรู้สึกว่าเรายังตื่นเต้นกับการเรียนรู้กับการได้เติบโตทางด้านทั้งจิตใจทางด้านทั้งจิตวิญญาณของเรามันสนุกมากนะครับ มันเป็นเส้นทางชีวิตนั่นเอง

MF: สนยุกต์กับการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์
สน: ก็เป็นอีกอีกบทบาทของผมที่ท้าทายสำหรับผมมากๆ จริงๆ ไม่ใช่คนกล้าแสดงออกโดยธรรมชาติครับ ก็ต้องมาฝึกเรื่องนี้ และมันก็เป็นการฝึกที่ดี เพราะว่าถ้าผมไม่เคยฝึกจากโซเชียลมีเดียเลยผมก็อาจจะไม่สามารถนำมาใช้กับการในวงการบันเทิงได้ ผมทำคอนเทนต์ไปทุกๆ คอนเทนต์มันก็ปรับปรุงดีขึ้นเรื่อยๆ ผมก็เห็นมุมมองหรือว่าจุดบอดหรือว่าข้ออะไรที่ตัวเองต้องแก้ไขมากขึ้นเรื่อยๆ ก็สามารถทำให้ผมเหมือนได้ลงสนามจริงๆ ครับ

MF: จุดเริ่มต้นของการทำคอนเทนต์มาจากอะไร
สน: จุดเริ่มต้นมันเริ่มมาจากยุคสมัยที่เปลี่ยนไปครับ เพราะว่าเดี๋ยวนี้โซเชียลมีเดียมันคือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยแล้วงานมันก็อยู่ในโซเชียลมีเดียด้วย จริงๆ แล้วอีกอย่างนึงที่ผมตั้งใจมาทำเพราะผมอยากจะสื่อสารให้คนรู้จักผมว่าจริงๆ แล้วผมเป็นคนยังไง เพราะว่าถ้าดูจากจอทีวีสมัยก่อนจะไม่รู้เลยว่าผมเป็นคนยังไง มันเป็นแบบลุคพระเอก เป็นคนนิ่งมาก เห็นในการสัมภาษณ์ก็คือเห็นแค่เวลาสัมภาษณ์ แต่ว่าพอได้มาเล่นหรือใช้โซเชียลมีเดียสื่อในการแสดงตัวตนของเราจริงๆ ก็ทำให้ผมกล้าแสดงออกมากขึ้น แล้วก็กล้าเป็นตัวเองมากขึ้นครับ 

MF: ฝากผลงาน
สน: ขอฝากซีรีส์เรื่อง Shine นะครับ Original Gay Series เรื่องแรกในประเทศไทย ซึ่งก็เป็นผลงานที่ผมภูมิใจมากๆ แล้วผมก็เชื่อว่าคนดูจะได้กำไรแน่นอน เพราะว่าโปรดักชั่น บท ทีมงาน นักแสดงทุกคนตั้งใจทำผลงานนี้ให้มันเป็นมาสเตอร์พีซ ผมเชื่อว่าทุกคนได้รับความบันเทิงแน่นอนครับ


INTERVIEW Thunthiwa Saksiriwetkul
DIGITAL EDITOR Anansit Karnnongyai
PHOTO Ponpisut Peejareon
MAKE UP Atimate Ariyakornanun HAIR Jatupong Chumjam
ASSISTANT PHOTOGRAPHER Chayathat Nuchpurn, Chanon Praphaiwaranon


More from this stream

Recomended

เบอร์เบอรี่เฉลิมฉลองผ้าพันคอลาย Burberry Check อันเป็นเอกลักษณ์

เบอร์เบอรี่ถ่ายทอดความอบอุ่นและเอกลักษณ์เหนือกาลเวลาของผ้าพันคอลาย Burberry Check...

GUCCI THE ALCHEMIST’S GARDEN สู่โลกแห่งความหอมอันบริสุทธิ์

ดำดิ่งสู่มิติใหม่ของกลิ่นมัสก์และกุหลาบไปกับน้ำหอม Muschio Mineralis, Muschio di Luce,...

From Sketches to Surreal : Gongkan

เส้นทางศิลปะเริ่มต้นขึ้นในวัยเยาว์จากการชอบวาดรูป แรงบันดาลใจและความรักที่มีต่อการแสดงออกทางศิลปะได้ผลักดันให้พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นศิลปินผู้มีผลงานเป็นที่ยอมรับ ด้วยสไตล์ที่โดดเด่นผสานจินตนาการ...

KUMOLAB ความอร่อยจากชีสเค้กถุงสีส้ม ที่ครองใจคนทั้งเมือง

ในโลกที่ความอร่อยกลายเป็นแรงบันดาลใจ KUMOLAB (คุโมะแล็บ)...

ทุกบทเพลงคือส่วนหนึ่งของการเติบโต PUN ‘Bandage’ The 1st Concert

จากเด็กคนหนึ่งที่มีความฝัน ที่เริ่มต้นด้วยความหลงใหลในเสียงดนตรี PUN...