ข้อมูลแบบเจาะลึกจะแสดงให้เห็นถึงบรรดาชิ้นส่วนสุดทันสมัยของ OMEGA วัสดุที่รังสรรค์มาโดยเฉพาะ และองค์ประกอบการออกแบบต่างๆ เปิดเผยความพยายามอย่างไม่ย่อท้อหลากหลายแบบที่ OMEGA ใช้ในการผลิตเรือเวลาและรักษาชื่อเสียงอันยอดเยี่ยมมาได้ตลอดหลายทศวรรษ
ที่ OMEGA ไม่มีขั้นตอนใดที่ไม่สำคัญ เรายอมรับเพียงความสมบูรณ์แบบเท่านั้นตั้งแต่การร่างแบบจนถึงเป็นเรือนเวลา
การผลิตเรือนเวลา
หัวใจของการทำงานได้อย่างแม่นยำของกลไกในเรือนเวลา OMEGA คือชิ้นส่วน: แม้อาจมองไม่เห็นแต่สำคัญยิ่ง
ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial
เมื่อเผยโฉมครั้งแรกในปี 1999 นับเป็นเวลากว่า 250 ปีที่ไม่มีการประดิษฐ์ชิ้นส่วนลักษณะนี้ ระบบถูกคิดค้นขึ้นโดยนักประดิษฐ์และปรมจารย์แห่งการผลิตเรือนเวลา จอร์จ แดเนียลส์ (George Daniels) และพัฒนาโดย OMEGA ระบบปล่อยจักรดังกล่าวมีพื้นผิวสัมผัสที่น้อยซึ่งทำให้กิดแรงเสียดทานต่ำ ต้องการสารหล่อลื่นน้อย และมอบความน่าเชื่อถือที่สูงกว่าเดิม นับเป็นการปฏิวัติวงการเวลาที่ยังไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน
ซิลิคอนบาลานซ์สปริง (Si14)
มีความบางมากกว่าผมมนุษย์ถึงสามเท่า ทนต่อการกระแทกและไม่ได้รับผลกระทบจากสนามแม่เหล็กอย่างสิ้นเชิง แฮร์สปริงอันโด่งดังของ OMEGA ถูกนำมาใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2008 และยังคงเป็นชิ้นส่วนสำคัญในกลไกของ OMEGA
การรับรอง Master Chronometer
OMEGA ไม่เคยเชื่อในเทคโนโลยีโดยปราศจากการทดสอบ มันต้องได้รับการพิสูจน์ การรับรอง Master Chronometer ของ OMEGA นั้นการันตีถึงประสิทธิภาพที่เหนือระดับ คุณสมบัติการต้านทานสนามแม่เหล็กสูงถึง 15,000 เกาส์ และที่ขาดไม่ได้คือระดับความเที่ยงตรงอันยอดเยี่ยม การทดสอบอันเข้มงวดถึงแปดรายการตลอดระยะเวลาสิบวันจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวดโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสวิตเซอร์แลนด์ (METAS)
วัสดุ
เมื่อ OMEGA ต้องการวัสดุที่มีตัวตนชัดเจนทว่าไม่มีในเวลานั้น OMEGA จึงเลือกรังสรรค์เอง อัลลอยหลากหลายชนิดของ OMEGA ได้เสริมการออกแบบเรือนเวลาของแบรนด์ด้วยสีสันอันโดดเด่นและคงทน อัลลอยแต่ละชนิดถูกผสมผสานเพื่อแสดงจุดเด่นของตนไปพร้อมๆ กับมอบลุคและคุณภาพให้กับเจ้าของเรือนเวลาได้อย่างไม่เหมือนใครในโลกแห่งการผลิตเรือนเวลา
ทอง Sedna™
อัลลอยสีแดงโดดเด่นของ OMEGA ชนิดนี้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งมอบคุณสมบัติที่ทนทานต่อการซีดจางเมื่อเวลาผ่านไปควบคู่กับตัวตนมาตรฐานของทอง 18K ชนิดอื่นๆ
Canopus Gold™
OMEGA นำอัลลอยไวท์โกลด์ 18K ชนิดนี้มาประยุกต์ใช้ตั้งแต่ปี 2015 มอบทั้งความหรูหราในทุกอณู วามแวววาวสูง ความขาว และทนทานไม่ซีดจาง ทำให้นี่คือวัสดุในอุดมคติสำหรับเครื่องบอกเวลาประดับเพชรหรือเรือนเวลาชั้นสูง
ทอง Moonshine™
OMEGA ได้รังสรรค์ทอง Moonshine™ ซึ่งเป็นอัลลอยเยลโลว์โกลด์ 18K อันเป็นเอกสิทธิ์ขึ้นใหม่ในปี 2019 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากแสงจันทร์ที่เฉิดฉายท่ามกลางท้องฟ้าสีน้ำเงิน มอบเฉดสีที่อ่อนกว่าเยลโลว์โกลด์ 18K ทั่วไปและทนทานต่อการซีดจาง
บรอนซ์โกลด์
ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อมอบเฉดสีและสัมผัสที่ชวนให้หลงใหล บรอนซ์โกลด์สามารถสัมผัสผิวหนังได้โดยตรงเนื่องจากส่วนผสมแบบพิเศษ อัลลอยที่ไม่เหมือนใครนี้ประกอบด้วยโลหะระดับสูงอย่างทอง 37.5% และได้รับการรับรองระดับ 9K รวมถึงประกอบด้วยพัลลาเดียมกับเงิน มอบสีสันอันโดดเด่นที่อยู่ตรงกลางระหว่างทอง Moonshine™ 18K กับทอง Sedna™ 18K นอกจากจะให้เฉดสีชมพูอ่อนระหว่างสวมใส่ บรอนซ์โกลด์ยังต้านทานการกัดกร่อนโดยปราศจากสนิมเขียว (verdigris- oxidation) โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ และคงความงามกับธรรมชาติของพาทิน่าได้ยาวนานยิ่งขึ้น
ชิ้นส่วน
หากพิจารณาอย่างใกล้ชิดก็จะได้พบกับความใส่ใจของ OMEGA ในระดับรายละเอียดที่ปรากฏในทุกสิ่งที่แบรนด์รังสรรค์ ตั้งแต่ข้อสายนาฬิกาไปจนถึงตราบนหน้าปัด
หน้าปัด
ความงามและการอ่านเวลา
มีเพียงหน้าปัดที่คู่ควรที่สุดที่จะถูกติดตั้งด้วยตราอันโด่งดัง ในภาพคือหน้าปัดสีแซนด์สโตนของ Seamaster Aqua Terra Shades ขนาด 43 มม. ที่ผลิตจากแผ่นทองเหลืองตกแต่งด้วยลวดลายรัศมีซันบรัชจากกึ่งกลางแล้วเคลือบด้วยแลคเกอร์ ตรา OMEGA รังสรรค์จากไวท์โกลด์ 18K ที่ขัดแบบไดมอนด์เพื่อให้สอดรับกับหลักชั่วโมงที่เป็นเอกลักษณ์
สายนาฬิกา
กระชับและสวมใส่สบาย
หลักการออกแบบของ OMEGA ยังครอบคลุมไปถึงทุกรายละเอียด ในภาพคือสายนาฬิกาสำหรับ Seamaster Aqua Terra Shades ขนาด 34 มม. ข้อสายอันโค้งมนที่ได้รับการขัดเงาสลับด้านคือการผสมผสานอย่างลงตัวของรูปทรงและการใช้งาน กระทั่งหัวสายแบบบานพับก็นับว่าเป็นงานศิลป์
ชุดเข็มนาฬิกา
ที่บอกเวลาอย่างโดดเด่น โดยนักออกแบบของ OMEGA ปรารถนาให้ทุกชิ้นส่วนที่ขยับได้นั้นมีสไตล์มากพอที่จะให้ทุกคนต้องเหลียวมอง ในภาพคือเข็มชั่วโมงอันโดดเด่นของ Seamaster 300 ที่มีรูปทรงซึ่งอ่านเวลาได้ง่ายและตกแต่งด้วยเฉดสีที่อ่อนเพื่อให้เหมาะสมกับตัวเรือนที่ใช้วัสดุบรอนซ์โกลด์ของ OMEGA
ขอบตัวเรือน
เข้ากันอย่างลงตัว
ที่ OMEGA ทุกชิ้นส่วนต้องประกอบได้อย่างพอดีและสอดพ้องกับการออกแบบในองค์รวม ขอบตัวเรือนเซรามิกสีน้ำเงินขัดเงากับหลักเลขโรมันจาก Ceragold™ คือหมุดหมายที่รายล้อมดวงดาวอันโด่งดังหนึ่งดวงที่ประดับบนหน้าปัดซันบรัชสีน้ำเงินของเรือนเวลา Constellation รุ่นขนาด 41 มม. ซึ่งรังสรรค์จากสตีลและทอง Sedna™ 18K
ความยอดเยี่ยมที่สั่งสม
ด้วยจิตวิญญาณแห่งนักบุกเบิกที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง OMEGA จึงมุ่งผลักดันขอบเขตของความเป็นไปได้ในการผลิตเรือนเวลาให้กว้างขึ้นเสมอ
การรั้งรอหรือหยุดอยู่กับอดีตอันรุ่งโรจน์นั้นหาใช่หนทางของ OMEGA ผู้ที่ชื่นชอบในแบรนด์สามารถคาดหวังได้ทั้งเทคโนโลยี วัสดุ และการออกแบบใหม่ ระดับแห่งความเป็นเลิศที่มาจากการลงทุนทั้งเวลาและความหลงใหลในรายละเอียด
นี่คือความไม่โอนอ่อนของ OMEGA นี่คือความเที่ยงตรงของเรา