นอกจากความโดดเด่นในฐานะแบรนด์จิวเวลรี่ชั้นสูงจากฝรั่งเศสที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน Boucheron ยังได้รับการยกย่องในโลกแห่งเรือนเวลาชั้นสูงว่าเป็นเมซงที่หลอมรวม “เวลา” เข้ากับศิลปะแห่งการรังสรรค์ได้อย่างวิจิตรทอแสง ทุกเรือนเวลาคือบทประพันธ์แห่งความเที่ยงตรง จินตนาการ และอารมณ์ ถ่ายทอดการผสานอันกลมกลืนระหว่างศาสตร์แห่งการประดิษฐ์เรือนเวลาและศิลปะแห่งเครื่องประดับชั้นสูง เปล่งประกายคุณค่าของเวลาให้มีทั้งความงามและความหมายในคราวเดียว
เรือนเวลาของ Boucheron ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องบอกเวลา หากแต่เป็นผลงานศิลปะที่สื่อถึงการผสานอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างความงามและนวัตกรรม หน้าปัดของแต่ละเรือนเปรียบเสมือนผืนผ้าใบซึ่งสตูดิโอออกแบบของเมซงถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากหลักการแห่งความคิดสร้างสรรค์ทั้งสี่ประการ—ธรรมชาติ สัตว์ กูตูร์ และสถาปัตยกรรม—ให้โลดแล่นขึ้นอย่างมีชีวิตและเปี่ยมมนต์เสน่ห์ สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในการหลอมรวมศิลปะแห่งการฝังอัญมณีเข้ากับศาสตร์แห่งการประดิษฐ์เรือนเวลาได้อย่างประณีตและลงตัว
หนึ่งในบทกวีแห่งศิลปะการประดิษฐ์เรือนเวลาชั้นสูงคือ ตูร์บิญอง (Tourbillon) ผลงานชิ้นเอกทางกลไกที่ถือกำเนิดในยุคนาฬิกาพกและได้รับการยกย่องมาโดยตลอดในฐานะสัญลักษณ์ของความงามและความเที่ยงตรง คำว่า “Tourbillon” มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “พายุหมุน” สื่อถึงกลไกอันซับซ้อนที่เคลื่อนไหวอ่อนช้อยดั่งเกลียวลม ทุกจังหวะของการหมุนเผยให้เห็นทั้งความแม่นยำและความงามไร้ที่ติ โดยเฉพาะ Flying Tourbillon ซึ่งเป็นกลไกที่ดูราวกับลอยตัวอยู่ภายในเรือนเวลาโดยปราศจากโครงยึดที่มองเห็นได้ เผยให้เห็นความงดงามของการเคลื่อนไหวในทุกรายละเอียด—เป็นการรังสรรค์ที่สะท้อนทั้งความประณีต นวัตกรรม และจิตวิญญาณแห่งความสง่างามที่ Boucheron ยึดมั่นมาโดยตลอด
ด้านหลังตัวเรือนแบบโปร่ง (open caseback) เผยให้เห็นงานแกะสลักอย่างประณีตของ Place Vendôme สถานที่ทางประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นหัวใจของเมซง และคือจุดกำเนิดของศิลปะแห่งความงามที่ Boucheron ภูมิใจรังสรรค์ ท่ามกลางแสงที่ลอดผ่าน การเคลื่อนไหวของตูร์บิญองร้อยเรียงมรดกแห่งความเชี่ยวชาญ ความเที่ยงตรง และบทกวีแห่งเวลาเข้าไว้ด้วยกันอย่างงดงามเหนือกาลเวลา
Épure Tourbillon Acanthe
หน้าปัดตกแต่งด้วยลายใบอะแคนตัส ตัวเรือนทองคำขาว ประดับเพรชทรงบาเก็ต
ต้นอะแคนตัสซึ่งได้รับการยกย่องในโลกแห่งศิลปะตกแต่งมาอย่างยาวนาน เปี่ยมไปด้วยมรดกแห่งความงามและสัญลักษณ์อันลึกซึ้ง ชื่อของมันได้รับแรงบันดาลใจจาก “นิมฟ์” ในเทพปกรณัมกรีก เทพีผู้เปี่ยมด้วยความงามและชีวิตชีวา ผู้ซึ่งสถิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นป่า ภูเขา ทะเล หรือแม่น้ำ แต่ละนิมฟ์ล้วนเป็นตัวแทนขององค์ประกอบแห่งธรรมชาติ ทั้งต้นไม้ ดอกไม้ และสายน้ำ อันสะท้อนถึงเยาว์วัย ความอ่อนโยน และพลังแห่งการสร้างสรรค์ของธรรมชาติอันไม่สิ้นสุด
ต้นอะแคนตัสจึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความทุ่มเทต่อศิลปะและความงามอันเป็นนิรันดร์ บนหน้าปัดของเรือนเวลานี้ ช่างผู้เชี่ยวชาญของเมซง Boucheron ถ่ายทอดความพลิ้วไหวเหนือจริงของใบอะแคนตัส ความโค้งงามของก้าน และความละเอียดอ่อนของเส้นใบ รายละเอียดทุกจุดถูกสลักและแกะสลักด้วยมืออย่างประณีตบนทองคำ แปรเปลี่ยนพื้นผิวให้กลายเป็นภาพธรรมชาติที่มีชีวิต ผลงานแห่งศิลป์ที่เปี่ยมจิตวิญญาณและความประณีตในทุกอณู
Épure Tourbillon Plume de Paon
หน้าปัดตกแต่งลวดลายขนนกยูง ตัวเรือนทองคำขาว ประดับเพรชทรงกลม
กว่า 160 ปีที่ผ่านมา เฟรเดอริก บูเชอรง ได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามอันละเอียดอ่อนของขนนกยูง หรือที่รู้จักกันในชื่อ Plume de Paon ด้วยความหลงใหลในความอ่อนช้อยและความสง่างามอันเป็นนิรันดร์ เขาจึงร่วมมือกับเหล่าช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อถ่ายทอดความพลิ้วไหวและความละเมียดละไมของขนนกยูงผ่านงานศิลป์ที่ประณีตและเปี่ยมชีวิต
เรือนเวลา Épure Tourbillon Plume de Paon จึงถือเป็นการรำลึกถึงมรดกทางแรงบันดาลใจและความชำนาญแห่งหัตถศิลป์ของเมซง ภายใต้หน้าปัดอันเปล่งประกาย ขนนกยูงขนาดจิ๋วระยิบระยับด้วยรายละเอียดอันวิจิตร ถ่ายทอดด้วยเทคนิคชั้นสูงที่สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญของ Boucheron ในการหลอมรวมศิลปะแห่งจิวเวลรี่เข้ากับศาสตร์แห่งการประดิษฐ์เรือนเวลาอย่างกลมกลืน
เรือนเวลาชิ้นเอกนี้คือบทกวีแห่งความงามที่เชิดชูความบริสุทธิ์ พลัง และเสน่ห์อันเป็นนิรันดร์ของธรรมชาติ ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งความสง่างามของ Boucheron ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Épure Tourbillon Hopi
หน้าปัดตกแต่งด้วยนกฮัมมิ่งเบิร์ด ตัวเรือนทองคำขาว ประดับเพรชทรงบาเก็ต
ผลงาน Créations d’Art จากคอลเลกชัน Épure ถ่ายทอดลวดลายของเหล่าสัตว์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันทรงคุณค่าของเมซง Boucheron ให้โลดแล่นขึ้นอย่างมีชีวิตชีวา บนหน้าปัดที่รังสรรค์ด้วยความประณีตและจิตวิญญาณแห่งศิลป์ นกฮัมมิงเบิร์ด หรือ “Hopi” (โฮปี้) ถูกสร้างสรรค์ขึ้นอย่างละเอียดลออโดยช่างอัญมณีและช่างทำนาฬิกาผู้เชี่ยวชาญของเมซง
นกน้อยเหล่านี้เปรียบเสมือนทูตแห่งความสุขและความรัก ผู้พิทักษ์ของแสงอาทิตย์ยามอัสดงที่เปล่งประกายเหนือกาลเวลา ถ่ายทอดความงดงามของธรรมชาติ ความเปล่งประกายของชีวิต และจิตวิญญาณแห่งการรังสรรค์ที่เป็นหัวใจของ Boucheron ได้อย่างงดงาม
Épure Tourbillon Pegasus
หน้าปัดตกแต่งด้วยลายม้าเพกาซัส ตัวเรือนทองคำขาว ประดับเพรชทรงบาเก็ต
เพกาซัส ม้ามีปีกผู้ถือกำเนิดจากเทพโพไซดอน คือหนึ่งในตำนานอันยิ่งใหญ่แห่งเทพปกรณัมกรีก ผู้เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ พลังสร้างสรรค์ และจิตวิญญาณแห่งอิสรภาพ เทพซุส ผู้เป็นเจ้าแห่งสวรรค์ได้สถาปนาเพกาซัสให้เป็นนิรันดร์ โดยนำเขาขึ้นสู่ฟากฟ้าและแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นหมู่ดาวที่เปล่งประกายชั่วกาล เมซง Boucheron ถ่ายทอดตำนานนี้ผ่านเรือนเวลาอันประณีต สะท้อนจิตวิญญาณอันเรืองรองของเพกาซัส ท่ามกลางแสงแห่งท้องฟ้าที่เสมือนเวลาหยุดนิ่งอยู่เหนือห้วงสวรรค์
บนหน้าปัดเรือนเวลา ม้าเพกาซัสถูกแกะสลักอย่างประณีตจากบรอนซ์ เคลือบผิวด้วยแลกเกอร์ละเอียดลออ ก่อนประดับเพชร 225 เม็ด และมรกต 38 เม็ด บนปีกและพื้นหลัง เกิดเป็นประกายที่สะท้อนความงามของตำนานและศิลปะแห่งเวลาได้อย่างงดงาม งานประติมากรรมบรอนซ์ของเพกาซัสทำให้เรือนเวลานี้มีน้ำหนักมากกว่าเรือนตูร์บิญองทั่วไปเล็กน้อย ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความซับซ้อนของงานฝีมือและความเป็นเลิศทางศิลป์ที่เมซง Boucheron ถ่ายทอดไว้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกอณูแห่งเวลา
Épure Tourbillon Ama
หน้าปัดตกแต่งด้วยลายปลา ตัวเรือนทองคำขาว ประดับเพรชเจียระไนทรงกลม
ผลงานทุกชิ้นภายใต้คอลเลกชัน Épure ถ่ายทอดความประณีตและความเชี่ยวชาญของช่างทองแห่งเมซง ผ่านเทคนิค marquetry การต่อลายวัสดุอย่างวิจิตรบนผืนผ้าใบขนาดจิ๋ว ที่ต้องอาศัยทั้งศิลปะ ความแม่นยำ และความอดทนในระดับสูงสุด
เรือนเวลา Tourbillon Ama ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งอิสระในการสร้างสรรค์ที่เฟรเดอริก บูเชอรงยึดมั่นมาโดยตลอด พาผู้สวมใส่ดำดิ่งสู่ความงดงามเหนือจินตนาการของสายน้ำอันล้ำเลิศ บนหน้าปัด หางปลาที่ประดับเพชรลื่นไหลอย่างสง่างามราวกับกำลังเคลื่อนไหวในโลกใต้น้ำในฝัน เปล่งประกายดั่งบทกวีแห่งความงามและอิสระ
ทุกเรือนเวลาจาก Boucheron คือตำนานแห่งการหลอมรวม “ศิลปะ” และ “เวลา” ให้กลายเป็นหนึ่งเดียว ถ่ายทอดความงามอันเหนือกาลเวลา ผ่านฝีมืออันประณีตของช่างผู้เชี่ยวชาญ และจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น เมซงยังคงเดินหน้ารังสรรค์ผลงานที่สะท้อนความเป็นตัวตน อิสระทางความคิด ความกล้าที่จะสร้างสรรค์ และความงามที่เปี่ยมด้วยความหมาย เพื่อให้ทุกวินาทีแห่งกาลเวลาเปล่งประกายดั่งบทกวีแห่งชีวิตที่ไม่มีวันจาง