Quintessence : Alek – Teeradetch Metawarayut

Men’s Folio Thailand พาก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความหมายกับเรื่องราวการเติบโตของ อาเล็ก – ธีรเดช เมธาวรายุทธ
Cover Star ประจำเดือนกันยายน-ตุลาคมชายผู้ค้นพบคุณค่าของชีวิตและงาน ผ่านการเติบโตทั้งในวงการและชีวิตส่วนตัว พร้อมก้าวต่อไปด้วยความเข้าใจตัวเองและความสมดุล

แม้ในช่วงสัมภาษณ์ก่อนการถ่ายแฟชั่นเซ็ตเขาจะมีอาการป่วย แต่ความตั้งใจและรอยยิ้มยังคงสะท้อนออกมาอย่างชัดเจน บรรยากาศระหว่างการสนทนาเต็มไปด้วยความเรียบง่ายและเป็นกันเอง นอกจากภาพลักษณ์ที่คุ้นตาจากหน้ากล้องแล้วอาเล็กในวันนี้ยังเผยให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของเขามากขึ้น ทั้งความคิด มุมมองชีวิต และความมุ่งมั่งอย่างตั้งใจ

MF: อัปเดตชีวิตช่วงนี้ของอาเล็ก
อาเล็ก: เพิ่งเข้าโรงพยาบาลเป็นครั้งแรกในชีวิตแล้วก็เพิ่งจะออกมาจากโรงพยาบาลเลย ช่วงนี้ก็เป็นหนึ่งในช่วงที่เหนื่อย คือมันไม่ได้
เหนื่อยใจนะเพราะว่าเราทำงานทุกวันเลย จริงๆ ตอนที่เราวัยรุ่นช่วง 25-26 ตอนนั้นก็งานเยอะมากถ่ายละครทีละ 2-3 เรื่องถ่ายหนังด้วยแล้วเราก็ไม่ได้มีชีวิตแบบนั้นอีกเลย เพราะว่าเราก็มีแค่ละครทีละเรื่อง 2 เรื่อง มาปีนี้ที่ได้ถ่ายหนังกับถ่ายซีรีส์พร้อมๆ กันครับผม รวมถึงการทำงานอย่างอื่นด้วยนะ มันก็เลยเหนื่อย แล้วก็ประกอบกับการที่เรามีโปรเจกต์ที่ต้องลดน้ำหนักด้วยมันก็เลยต้องออกกำลังกาย ตื่นมาก็ออกกำลังกาย ไปถ่ายหนังมันก็เลยค่อนข้างเหนื่อย แต่ก็รู้สึกว่าเป็นไลฟ์สไตล์ที่โอเคกับเรามากๆ ในตอนนี้

MF: ภาพยนตร์ ข้างบ้าน (Ghostlight)
อาเล็ก: ข้างบ้าน จะเข้าโรงวันที่ 4 ธันวาคมนี้ครับ คือจริงๆ เคยเหมือนจะเคยประกาศในวงการสื่อด้วยมั้งว่าผมเป็นคนกลัวผีมาก เคยประกาศว่าจะไม่เล่นหนังผีเด็ดขาดแล้วก็ไม่เคยเล่นเลยจนเรื่องนี้ครับ พออ่านบทแล้วมันเป็นหนังผีก็จริง แต่ว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น คือเป็นเรื่องราวดราม่าของชีวิตคนก็เลยรู้สึกว่ามันน่าจะไม่มีอะไรหรอกมั้งแล้วก็ในแง่การแสดง รู้สึกว่ามันมีอะไรให้ท้าทายเยอะกับพาร์ทดราม่าของตัวละครก็เลยตัดสินใจรับเล่น แต่ก็เลยเหนื่อยมาก ถ่ายหนังผีเหนื่อยมากครับไม่คิดว่าจะเหนื่อยขนาดนี้ แต่ก็สนุกดีครับผม แล้วก็น่าจะเป็นหนังผีที่คนน่าจะชอบเยอะ คือเรื่องราวมันค่อนข้างเรียลมากๆ เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่คนเอามาเล่ากันจริงๆ มันเป็นประสบการณ์ของคนก็เลยน่าสนใจเพราะงั้นก็ฝากด้วยครับ ข้างบ้าน

MF: แล้วอาเล็กได้ลองฟังบ้างไหม
อาเล็ก: ไปฟังมาครับ แต่ว่ายังฟังไม่หมด คือเรื่องที่เล็กเล่นใน YouTube มันมีตั้ง 4 ตอน ตอนละชั่วโมง ฟังไม่หมด ฟังไปได้แค่ 2 ตอน แล้วมันก็ยังไม่ถึงตอนที่น่ากลัวไง แต่ว่าในบทค่อนข้างน่ากลัว แล้วคือจากการที่เราฟังไปประมาณนึงกับการที่เราอ่านบท แต่พอไปเล่นจริง พี่โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ เขาเป็นผู้กำกับเขาก็จะมีภาพในหัวแบบที่เราคาดไม่ถึง แบบที่เราคิดไม่ถึงเยอะเลย มันก็เลยมีอะไรเพิ่มเข้ามาจากในบทเยอะมากแล้วมันก็ดีมาก บางทีผมอยู่หน้าเซ็ตแล้วแบบ โอ้โห พี่โขมคิดได้ไง เรายังคิดไม่ถึงเลยมันจะมีอะไรแบบนี้ครับ

MF: อาเล็กเคยบอกว่าไม่ได้อยากเป็นนักแสดง อาเล็กในวันนั้นจนถึงวันนี้เปลี่ยนไปยังไงบ้าง
อาเล็ก: ณ วันนั้นก็ยังไม่อยากเป็นนักแสดงอยู่แล้วนะครับ คือ ณ วันนั้นเรียกว่าทุกคนคงจะคิดคล้ายๆ กันว่าเป็นดาราเป็นนักแสดงจะ
เงินเยอะหารายได้ได้ดี เราก็คิดแบบนั้น แต่ถามว่าเราอยากแสดงไหมถามว่าเราชอบมันไหม เราไม่ได้อยากเราไม่ได้ชอบ มันไม่ได้อินกับมัน แต่ว่าจนพอเราโตมาแล้ว เราได้เห็นคุณค่าของมันมากกว่า เราไม่ได้เห็นคุณค่าของมันว่า เอ้ยมันไม่ใช่แค่การแสดงนะ มันสร้างคุณค่าอะไรบางอย่างให้กับสังคมด้วย ให้กับตัวเราเองด้วย ก็เลยทำให้เห็นว่ามันเป็นอาชีพที่มีประโยชน์นะแล้วก็เป็นศาสตร์ที่มีประโยชน์กับตัวเราเอง ก็เลยรู้สึกว่าก็จากวันนั้นที่เคยพูดแบบนั้นเราก็ค่อยๆ ได้เรียนรู้มันมากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าเราชอบอาชีพนี้ เราก็มาชอบศาสตร์ด้านนี้

MF: อาเล็กให้ความหมายกับคำว่าความสำเร็จยังไง
อาเล็ก: ทุกวันนี้แบบไม่ค่อยโหยหาอะไรแบบนั้นเลย อาจจะเป็นเพราะว่าความที่ตอนนี้ชีวิตมีทุกอย่างค่อนข้างครบแล้วด้วยมั้ง เล็กคิดว่าคำว่าความสำเร็จอาจจะเป็นการที่เราไม่ได้อยากได้อะไรแล้ว คือเราก็ยังอยากได้นู่นอยากได้นี่นะ แต่หลายๆ อย่างคือ… อย่างเช่น อยากได้นาฬิกาใหม่จังเลย แต่ไม่มีก็ได้ ไม่เอาก็ได้ อยากได้รถคันใหม่จังเลยแต่ไม่มีก็ได้ใช้คันเก่า อยากได้รุ่นใหม่จังเลย อยากได้นี่จังเลย แต่ถ้าตราบใดที่เรารู้สึกว่ามันไม่มีก็ได้ ไม่ต้องใช้ก็ได้ ไม่เอาก็ได้ เราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้ต้องการมันขนาดนั้น เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าเรามีทุกอย่างครบแบบนี้แล้ว แบบไม่ได้โหยหาว่าเราจะต้องการนู่นต้องการนี่จริงๆ ก็เลยรู้สึกว่ามันก็คงสำเร็จแล้วประมาณนึงแหละ แต่ว่าในแง่ของประสบความสำเร็จในอาชีพการงานกับประสบความสำเร็จในชีวิต มันก็แยกกันออกมาอีก แต่ว่าตอนนี้รู้สึกแฮปปี้กับทุกอย่างก็เลยรู้สึกว่าตัวเองคงมีความสำเร็จในชีวิตแล้วประมาณนึงแหละ เพราะว่าตอนนี้แบบรู้สึกว่าไม่ได้อยากไม่ได้ต้องการอะไรเลย

MF: ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมามีบทบาทไหนที่อาเล็กอยากลองเล่นอีกบ้าง
อาเล็ก: จริงๆ ก็อยากเล่นแบบอยากเล่นบทบู๊จ๋าๆ ไปเลย เพราะยังไม่เคยเล่นเลย เล็กอยากทำอะไรอีกหรอ ไม่อยากทำอะไรแล้ว อยากนอนเฉยๆ อยากไปเที่ยว อยากนอนเฉยๆ ก็แต่ละบทบาทมันก็อาจจะมีซ้ำๆ บ้างมีคาแรกเตอร์์ซ้ำๆ บ้าง แต่ว่ามันก็เป็นแบบแต่ละคาแรกเตอร์มันไม่เหมือนกัน มันก็จะมีความแตกต่างมีความท้าทายที่แตกต่างกันออกไป ตอนนี้ก็อยากจะโฟกัสที่คุณภาพของบทและโปรดักชั่นมากกว่า เราเองก็อยากจะอยู่ในงานที่มันดีๆ ไม่ใช่งานที่ถ่ายๆ ไปงั้นแต่แน่นอนว่าตัวเราเองก็ต้องสร้างตัวเองให้ดีก่อนด้วย

MF: อยากให้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการทำอาหารของอาเล็ก
อาเล็ก: มันก็ผ่านมา 6-7 ปีแล้วมั้ง ตอนนั้นแค่รู้สึกว่าอยากมีช่องทางให้แฟนๆ ได้ดูเรามากขึ้น เพราะว่าเราตอนนั้นเหมือนมีแค่ IG เลย Facebook ก็ไม่ได้เล่น ก็อยากจะมีช่องทางเพิ่มก็เลยเปิด YouTube ขึ้นมา ตอนนั้นดาราแห่กันทำเลยมั้ง แต่ว่าทุกคนทำกันเป็น Vlog ไลฟ์สไตล์ แต่ว่าเราแค่รู้สึกว่าอยากจะมุ่งไปทางใดทางหนึ่งเลย เพราะว่าไลฟ์สไตล์เราลงใน IG ก็ได้ ก็เลยทำเกี่ยวกับการกิน เพราะเราก็ชอบกินด้วย ชอบสรรหาของกิน ชอบทำอาหารด้วย แล้วพี่ชายผมมีคนรู้จักที่เป็นเบื้องหลังเยอะอยู่แล้ว มีพี่ชาย มีเพื่อนสนิทที่เขาเป็นตากล้อง พี่ชายเป็นเอดิเตอร์คนตัดต่ออยู่แล้ว ก็เลยรวมทีมกันขึ้นมาแล้วก็ลุยเลย เพราะว่าเราไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ก็มีผมอยู่หน้ากล้อง มีตากล้องสองคน พี่ชายตัดต่อ ทุนศูนย์บาท

MF: แล้วมีร้านไหนที่เป็น recommend บ้าง
อาเล็ก: เวลาคนถามร้านนี้จะขึ้นมาเป็นร้านแรกเลย หม่อง ราชบพิธ อยู่ตรงราชบพิธครับผม เป็นต้มเนื้อวัวน้ำใส คนไม่กินเนื้อก็อาจจะ
ไม่เก็ตแต่ว่ามันอร่อยมาก

MF: ก้าวต่อไปของอาเล็ก
อาเล็ก: แต่งงานมีครอบครัว มันก็คงเป็นอะไรแบบนั้นครับ คงแต่งงานมีครอบครัว แต่ว่ามันก็ไม่ใช่อะไรที่เราจะฟันธงได้ แล้วก็อยากให้มันเป็นแบบนั้น เพราะว่าด้วยความพร้อมของเราในตอนนี้ด้วย ในแง่ของวงการบันเทิง เล็กเองก็อยู่มานานมากแล้ว คือไม่ได้จะออกนะแต่ว่าเราเองยังมองไม่เห็นตัวเองที่จะ… อ๋อ มีสิ เดี๋ยวก็จะมีโปรเจกต์ครับที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองนิดนึง มันก็จะเป็นอะไรที่เราไม่เคยทำมาก่อน ก่อนหน้านี้อาจจะแค่เคยเปลี่ยนลุคนู่นนี่ใช่ไหม แต่เดี๋ยวจะมีโปรเจกต์ที่ค่อนข้างเปลี่ยนเยอะเลย ตัวเราเองก็อาจจะได้เปลี่ยนลุคเปลี่ยนคาแรกเตอร์์ไปเลย นี่ก็จะเป็นก้าวต่อไปครับผมที่ไม่เคยทำมาก่อนก็เดี๋ยวต้องลองดูว่ามันจะออกมาเป็นยังไง แต่ถ้าในเรื่องชีวิตตอนนี้ชีวิตก็นิ่งๆ แต่ในเรื่องของชีวิตก้าวต่อไปคงเป็นเรื่องแต่งงาน

MF: พูดถึงลุคต่างๆ ที่ถ่ายในวันนี้
อาเล็ก: เห็นชุดแล้วรู้สึกว่าโชคดีมากเลยครับ ผมเป็นไข้อยู่พอดี คือถ้าเกิดว่าไม่ได้เป็นไข้ผมคงเหงื่อแตกพลั่กแน่นอน เป็นไข้อยู่ผมเลยหนาวๆ นิดนึง แต่ว่าผมชอบสีมากเลยครับ ตอนนี้นะแบบจริงๆ ก็เป็นแนวเป็นลุคที่ปกติไม่ค่อยได้แต่งครับผม แต่เป็นลุคที่ชอบมากเลยนะ เป็นลุคที่เราไม่ค่อยมีโอกาสที่จะได้แต่งแบบนี้ แต่แบบเท่มากครับผม แล้วก็ดีใจมากด้วยที่ได้มาร่วมงานกับ Loro Piana เพราะว่าเป็นคนที่ชอบแบรนด์นี้อยู่แล้ว แล้วก็วันนี้ได้มาทำงานด้วยก็เลยรู้สึกว่าดีใจแล้วก็แฮปปี้ครับผม

MF: ปกติเป็นคนแต่งตัวสไตล์ไหน
อาเล็ก: มีหลายสไตล์เลยมันแล้วแต่วันว่าวันนี้จะไปไหน คือถ้าเกิดสมมุติวันนี้ไปกองซีรีส์กองหนัง เราก็จะใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น แต่ถ้าเกิดว่าวันที่เราอยากแต่งตัวจริงๆ วันนั้นก็จะแต่งแนวโตๆ หน่อย เดี๋ยวนี้เริ่มใส่กางเกงยีนส์รองเท้าหนัง ผมไม่แน่ใจว่ามันเรียกว่าแนวอะไร ก็จะเป็นพวกเสื้อยืดกางเกงยีนส์รองเท้าหนังครับ

MF: Bucket list ที่อยากทำ หรือสิ่งที่ทำสำเร็จไปแล้ว
อาเล็ก: อยากโดดร่มครับ มันเป็นหนึ่งใน Bucket List ของผมเลยที่โดดลงมาจากเครื่องบินนะ เคยจะได้ทำแล้วจ่ายเงินไปแล้วด้วย
แต่ว่าพอจะถึงคิวผมแล้วฟ้ามันปิดก็เลยโดดไม่ได้ ไม่งั้นได้ทำแล้วส่วนอะไรที่ทำสำเร็จไปแล้วหรอ จริงๆ ก็ไม่มีอะไรพิเศษนะครับ
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องไปเที่ยวมากกว่า เป็นคนที่ชอบสรรหาที่ไปเที่ยวถ้าว่างนะ สรรหาที่ไปเที่ยวแบบฉันต้องไปประเทศนี้ให้ได้ ฉันต้องไปที่นี่ให้ได้ ก็จะเป็นแนวๆ นั้นมากกว่า แต่ว่าสิ่งที่อยากทำจริงๆ มันไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้น มีโดดร่มอย่างเดียวที่จะชอบบอกตัวเองว่านี่ไง Bucket List เลยนะ

MF: ฝากผลงาน
อาเล็ก: วันที่ 4 ธันวาคมนะครับ ภาพยนตร์เรื่องข้างบ้าน ตอนนี้ก็กำลังถ่ายซีรีส์ทางแอปพลิเคชั่น True CJ อยู่อีกเรื่องหนึ่งครับผม แล้วก็อาหารของอาเล็กที่ YouTube กับ Facebook ครับ


MF: 1 ไอเทมที่ขาดไม่ได้
อาเล็ก: นาฬิกา

MF: สถานที่ที่ประทับใจที่สุด
อาเล็ก: ห้วยกุ๊บกั๊บ

MF: 1 ภาพยนตร์ หรือซีรี่ส์ที่ไม่มีวันเบื่อ
อาเล็ก: Hospital Playlist

MF: ร้านอาหารในดวงใจ
อาเล็ก: ไม่มีเลยเป็นอาหารฝีมือคุณแม่ครับ

MF: 1 สิ่งที่อยากบอกกับตัวเอง
อาเล็ก: นอนเยอะๆ นะ


INTERVIEW Thunthiwa Saksiriwetkul
STYLIST Chanond Mingmit
PHOTO Bert Sivakorn
MAKE UP Jirayu Desara HAIR Suttanakorn phuttakosol
ASSISTANT STYLIST Tanunthorn Aiamkajornchai
ASSISTANT PHOTOGRAPHER Korrawee Payonlert and Pun Chantrapipat

More from this stream

Recomended

Taylor Swift ปล่อยเพลงใหม่ “The Life of a Showgirl” จากอัลบั้มล่าสุด

https://youtu.be/slUhVTAznMo?si=eZMZi-gg46SCnLqd หลังจากสร้างความตื่นเต้นให้แฟนๆ มาตลอดปี 2025...

Cartier เปิดบทใหม่ของตำนานความรักกับ LOVE Unlimited

ในทุกยุคสมัย Cartier ยังคงยืนหยัดในฐานะสัญลักษณ์ของความรักอันเป็นนิรันดร์...

“RONRON” ปักหมุดครั้งแรกในไทยถึงใจกลางสยาม!

ท่ามกลางกระแสแฟชั่นที่หมุนเวียนอย่างไม่หยุดนิ่ง มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นขวัญใจของคนรุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และหนึ่งในนั้นคือ “RONRON” แบรนด์แฟชั่นผู้หญิงจากเกาหลีใต้ที่กำลังเป็นปรากฏการณ์ฮอตฮิตทั่วเอเชีย...

“Vacheron Constantin” เปิดประตูสู่ 270 ปีแห่งตำนานเวลา

ในวาระที่เมซงระดับตำนานอย่าง Vacheron Constantin ก้าวเข้าสู่ปีที่ 270...

เปิดบ้านสัมผัสความอบอุ่นกับ STAND OIL ‘HAPPY TOGETHER’

STAND OIL แบรนด์แฟชั่นจากเกาหลีใต้ที่สะท้อนเสน่ห์ของความเรียบง่าย...