มื่อพูดถึงน้ำหอมที่สามารถสะท้อนทั้งตัวตน ความสง่างาม และความลึกลับอันทรงเสน่ห์ของผู้ชายในแบบเหนือกาลเวลา คงไม่มีใครไม่รู้จัก BLEU DE CHANEL น้ำหอมไอคอนิกที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความมั่นใจและอิสระภาพไร้ขอบเขต ล่าสุด CHANEL ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่


ด้วยการเปิดตัว BLEU DE CHANEL L’Exclusif อย่างยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ภายใต้บรรยากาศสุดหรูและเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งความคลาสสิก รวบรวมแขกผู้มีเกียรติกว่า 300 ชีวิตจากทั่วเอเชียแปซิฟิก ไม่ว่าจะเป็นเหล่าสื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์ เซเลบริตี้ และบุคคลสำคัญมากมาย ที่ต่างพร้อมใจมาร่วมเป็นประจักษ์พยานต่อการเฉลิมฉลองครั้งประวัติศาสตร์ที่ยากจะลืม



ไฮไลท์สำคัญของงานอยู่ที่การได้ต้อนรับ โอลิวิเยร์ โพลช์ (Olivier Polge) นักปรุงน้ำหอมระดับตำนานของ CHANEL ผู้ถ่ายทอดศาสตร์และแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ BLEU DE CHANEL ให้แก่แขกผู้ร่วมงาน ผ่านเวิร์กช็อปสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและเสน่ห์แห่งศิลปะแห่งการปรุงน้ำหอม การได้สัมผัสเรื่องราวจากผู้สร้างสรรค์โดยตรง นับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์หายากที่ตอกย้ำถึงความพิเศษของโอกาสนี้



บรรยากาศการเฉลิมฉลองเปิดตัว BLEU DE CHANEL L’Exclusif ถูกออกแบบภายใต้ธีม “Blue Note” ที่นำเสนอสุนทรียะแห่งแสง สี และเสียงในสไตล์แจ๊สคลับโมเดิร์น ผสานกลิ่นอายของความลึกลับและร่วมสมัยได้อย่างลงตัว แขกผู้ร่วมงานได้ดื่มด่ำไปกับการเดินทางแห่งประสาทสัมผัส ทั้งกลิ่นหอมเข้มลึกของน้ำหอม การแสดงดนตรีสดอันน่าประทับใจ และการตกแต่งสถานที่ที่เนรมิตให้กลายเป็นโลกแห่ง BLEU DE CHANEL อย่างแท้จริง


นอกจากนี้ ค่ำคืนพิเศษยังเต็มไปด้วยความบันเทิงจากศิลปินชื่อดังหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เจย์ ฟุง จากฮ่องกง, เชส ชู จากจีน, ไทเลอร์ เท็น จากสิงคโปร์, เจอโรม เคอร์เนีย จากอินโดนีเซีย รวมถึงศิลปินไทยที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่าง หมาก ปริญ, แอลลี่ อชิรญา, ไอซ์ พาริส, เจ้านาย จักรภัทร, ออฟ จุมพล และอีกมากมาย ซึ่งต่างช่วยสร้างบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองให้เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา
งาน BLEU DE CHANEL L’Exclusif ในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการเปิดตัวน้ำหอมใหม่ แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จและอิทธิพลของ BLEU DE CHANEL ในฐานะสัญลักษณ์แห่งความหรูหรา อิสระภาพ และพลังของผู้ชายสมัยใหม่ทั่วโลก
ทั้งยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของ CHANEL ที่มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ประสบการณ์เหนือระดับให้ผู้คนได้ดื่มด่ำไปกับมนต์เสน่ห์ของน้ำหอมที่เป็นอมตะเหนือกาลเวลา

ในค่ำคืนแห่ง BLEU DE CHANEL ถือได้ว่าเป็นการประกาศสถานะของน้ำหอมที่กลายเป็นมากกว่ากลิ่นหอม หากแต่เป็นผลงานศิลป์ที่เปี่ยมด้วยความหมายและพลัง สะท้อนความเป็นตัวตนที่ไม่หยุดนิ่งและความสง่างามที่ไม่เคยเลือนหาย และนี่คือสิ่งที่ทำให้ BLEU DE CHANEL ยังคงเป็นตำนานที่ส่องประกายบนเส้นทางแห่งความหรูหราอย่างสง่างาม


