จากเพื่อนอนุบาลสู่คู่หูในวงการบันเทิงของ ฟอส-บุ๊ค ที่เติบโตมาพร้อมกันทั้งมิตรภาพและเส้นทางสายการแสดง ที่ต่างผลักดันตัวเองให้ก้าวข้ามขีดจำกัด เรียนรู้ และเติบโตท่ามกลางความท้าทายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบทบาทที่ท้าทาย การปรับตัวให้เข้ากับบทบาทใหม่ๆ หรือการพัฒนาความสามารถที่ไม่เคยลองมาก่อน พร้อมแชร์เป้าหมายใหม่ที่อยากท้าทาย และการเตรียมตัวสำหรับคอนเสิร์ตใหญ่
MF: แนะนำตัวกับชาว Men’s Folio Thailand
ฟอส-บุ๊ค: สวัสดีครับ พวกเรา ฟอส-บุ๊ค ครับผม
MF: เล่าความสัมพันธ์ในวัยเด็กของทั้งสองคน
ฟอส: ถ้าตั้งแต่เด็กเลยเท่าที่จำได้ก็คือเราเรียนอนุบาลด้วยกัน แล้วก็บ้านเราอยู่ใกล้กัน เราจะขึ้นรถตู้ด้วยกัน บุ๊คจะนั่งหน้าป่ะ หรือนั่งหลังนะ
บุ๊ค: นั่งหลัง แต่ฟอสจะมาอยู่ช่วงนึง คือสมัยอนุบาลจะมีรถตู้หลายคันเหมือนตอนช่วงนั้นถ้าจำไม่ผิดคือฟอสเหมือนจะย้ายจากรถตู้ไปอีกคัน
MF: กลับมาเจอกันอีกครั้งในช่วงที่โตขึ้นเป็นยังไงบ้าง
ฟอส: ก็มาเจอกันตอนเรียนมัธยม เข้ามาเรียนที่โรงเรียนสารวิทยาด้วยกันแต่ว่าถ้าช่วงม.ต้น บุ๊คจะเรียนห้องวิทย์ บุ๊คจะเป็นเด็กห้องคิง ผมเข้ามาคือเป็นเด็กปกติทั่วไป (หัวเราะ)
บุ๊ค: แล้วก็เจอช่วงมอปลาย คือบุ๊คกับฟอสจะอยู่คนละแก๊ง อยู่คนละกลุ่มกัน แต่ว่า ช่วงม.ปลาย ก็จะได้มาเจอกันเพราะว่าสองกลุ่มเหมือนได้มา merge กัน เข้ามารวมๆ กันก็จะเจอกันผ่านๆ บ้าง ซึ่งฟอสเขาก็จะเป็นเดือน ป๊อปปูล่า ตัวท็อปในโรงเรียน
ฟอส: เป็นฟีลแต่ว่าคนเขาตั้งให้นะ ฟอสเป็นตัวท็อป สุดฮอตในโรงเรียน แต่ว่าบุ๊คจะเป็นเดือนโรงเรียน เรียนดี กิจกรรมเด่น ส่วนผมเป็นพวกที่เดินไปวันๆ ไม่ได้ทำอะไร
บุ๊ค: แต่หล่อครับ หล่อ

MF: สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners
ฟอส: ผมพูดเลยนะว่าผมชอบงานซีรีส์ทุกเรื่องที่เราเล่นแต่ว่าเรื่องสายรหัสเทวดามันมีความพิเศษตรง คือเราก็สนิทกับนักแสดงทุกคนทุกเรื่องนะแต่ว่าสายรหัสเทวดามันมีเคมีบางอย่างที่นักแสดงทุกคนรักกันมากแบบมากๆ ไม่ใช่ว่ากองอื่นไม่รักนะแต่กองนี้มีความพิเศษ มันแบบสเปเชียล
บุ๊ค: อาจจะเพราะด้วยความที่เราถ่ายกันมาเกือบ 8 เดือนด้วยครับ
ฟอส: ใช่ แล้วมี 24 ep คือใช้เวลาด้วยกันมานานมากๆ พวกเราก็มีอะไรจะคุยด้วยกันหมดทุกอย่าง พวกเราเป็นกลุ่มเป็นก้อนซึ่งผมชอบความสัมพันธ์ของกองนี้มากเลยนะ คือทุกคนพร้อมซัพพอร์ตจับมือไปด้วยกันเป็นอะไรที่แบบแฮปปี้มากๆ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเจอบรรยากาศแบบนี้อีกไหมนะ เพราะตอนที่ถ่ายผมขอแค่อย่างเดียวเลย คือผมไม่รู้ว่าซีรีส์จะเป็นยังไง แต่ผมขอแค่คนดูได้รู้สึกเหมือนที่พวกผมเล่นกันในกอง ซึ่งพอเป็นอย่างนั้น ผมก็รู้สึกว่ามัน success ทาง
ความรู้สึกผมซึ่งก็ต้องขอบคุณแฟนๆ ที่ให้การซัพพอร์ตมาตลอด
MF: พูดถึงคาแรกเตอร์ที่ได้รับ
บุ๊ค: บุ๊คก็รับบทเป็นน้องอาร์มครับ เป็นผู้ชายคนนึงที่เป็นคนหัวแข็งนะแต่ว่าข้างนอกจะอ่อนนุ่ม คือหมายถึง ข้างในแข็งแต่ข้างนอกจะพยายามทำตัวให้เหมือนเชื่อฟัง ใครพูดอะไรมาก็ฟังแต่หันไปกล่องสองปุ๊บก็คือจะออกมาบ่น น้องอาร์มจะเป็นแบบนั้นทั้งในนิยาย แล้วก็ตัวที่บุ๊คพยายามจะสื่อให้น้องอาร์มเป็นครับ
แล้วก็ เป็นเด็กหัวดื้อคนนึง แต่ว่าเขาก็จะมีความน่ารักของเขา เป็นคนเห็นอกเห็นใจคนอื่น เป็นคนมองโลกในแง่ดีครับผม แล้วก็น้องอาร์มเขาก็จะมีความชอบถามพี่อาร์คบ่อยๆ พี่อาร์คชอบเราได้ยังไง ทำไมถึงรักเรา อาจจะเป็นเพราะด้วยความไม่มั่นใจในตัวเองที่รู้สึกว่าคนอย่างพี่อาร์คจะมาชอบคนหน้าตาไม่ดี
อย่างเรา น้องอาร์มเขาจะเป็นแบบนั้นครับ
ฟอส: ส่วนพี่อาร์คคาแรกเตอร์ก็จะเป็นคนที่ไม่เอาใคร ไม่ได้ชอบออกโซเชียล แล้วก็เป็นคนที่เหมือนเป็นเด็กเอาแต่ใจ อารมณ์ร้อน แล้วก็เป็นคนไม่ค่อยเอาใคร เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง แล้วก็ไม่สนใจใคร แต่ว่าพอได้มาเจอกับอาร์ม เขาก็เริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ดีขึ้นครับผม


MF: ถ้าได้สลับบทกันคิดว่าจะเป็นยังไง
ฟอส: ก็คงจะสนุกดี บุ๊คก็คงอยากเล่นบทอะไรอย่างนี้เหมือนกัน ผมก็คงได้ลองอะไรใหม่ๆ ก็น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีนะครับ เพราะเราก็รู้สึกว่าในเชิงการแสดงเราก็อยากเล่นอะไรที่มันท้าทายตัวละครที่เราเคยเล่นไปเรื่อยๆ คนจะได้ไม่เบื่อ คือผมกับบุ๊คเอาจริงๆ คือเราจะพยายามไม่ค่อยอยากเล่นคาแรกเตอร์ที่มันซ้ำ เพราะรู้สึกว่าพอมันซ้ำแล้วคนก็ไม่ได้อยากให้เหมือนเดิม อยากเล่นอะไรที่มันฉีก อย่างเรื่องใหม่ความลับในบทเพลงที่บุ๊คเล่นก็ฉีกคาแรกเตอร์มันเป็นอะไรที่ดีเพราะว่าคนจะได้เห็นเราในหลายๆ แบบจะได้ไม่รู้สึกว่าไม่เบื่อ ผมก็รู้สึกว่าทุกครั้งเราก็ต้องเต็มที่กับการแสดง เราก็ต้องฆ่าตัวละครที่เราเคยเล่นมาให้หมด
MF: บทบาทหรือ genre ไหนของทั้งซีรีส์และภาพยนตร์ที่อยากลองเล่น
ฟอส: ถ้าเป็นภาพยนตร์ผมก็อยากเล่นอะไรที่มันตลก อย่างปีนี้เดี๋ยวเราจะเล่นอะไรที่มันดราม่าเข้มข้น เพราะว่าผมมีทั้งความลับในบทเพลงแล้วก็ Scarlet Heart ซึ่งก็เป็นสิ่งใหม่เพราะเป็นพีเรียด ก็เหลือแค่ตลกคอมเมดี้ คือผมชอบน้ำตากามเทพมาก ผมก็อยากเล่นแบบนั้นไปเลย อยากเล่นตลกใหญ่ๆ ไปเลย ซึ่งนี่คือสิ่งที่ผมอยากเล่น จริงๆ เล่นอะไรก็ได้แหละครับที่สนุก อ่านแล้วมันสนุก แต่ว่าก็อยากเล่นอะไรที่มันฉีกกับตัวเองมากๆ เหมือนกัน คนอาจจะรู้สึกว่าคาแรกเตอร์ฟอสดูเป็นคนนิ่งๆ แต่ผมว่าผมก็น่าจะเล่นตลกได้นะ คิดเอาเอง ก็คงต้องไปทำการบ้านแหละ หรือถ้าไม่ใช่แบบนั้นก็อยากเล่นบทแบบแฝดสองคาแรกเตอร์ ซึ่งพวกพีเรียดเดี๋ยวปีนี้ได้เล่นแล้ว ซึ่งอะไรที่เป็นสืบสวนสอบสวนก็ได้เล่นแล้ว ก็น่าจะเหลือแค่สองอย่างนี้แหละก็คือคิดไว้ในช่วงปีสองปีนี้
บุ๊ค: ส่วนของบุ๊คก็อยากเล่นแอ็คชั่นครับ อยากลองดู อยากรู้ว่าคิวบู๊เขาเป็นยังไง อยากรู้ว่าการเข้ากับสตั๊นแมนจริงๆ จังๆ เป็นยังไง เพราะส่วนตัวแล้วบุ๊คเคยเรียนมาก่อน ชอบเพราะมันเท่ ได้ถือปืน ได้กลิ้งตัวแล้วเราเป็นคนที่รู้สึกว่าถนัดเรื่องอะไรพวกนี้นะ บุ๊ครู้สึกว่าตอนที่ไปเรียนรู้สึกหัวไวด้านนี้ ครูก็ชมเราเลยรู้สึกว่าถ้าสมมุติได้เล่นจริงๆ มันก็คงสนุก แล้วพอมีบรรยากาศกองแล้วเจอสตั๊นแมนจริงๆ แล้วมันมีเสียงลูกแบงก์ ยิ่งป้างไปจริงๆ มันก็น่าจะสนุกครับ

MF: ความลับในบทเพลงที่บรรเลงไม่รู้จบ
ฟอส: ผมรับบทเป็น ดร.แทนคุณ เป็นนักอาชญาวิทยา ก็คือมันจะเกิดคดีฆาตกรรมอันนี้คือเรื่องในเทรลเลอร์นะครับ ซึ่งตำรวจไขคดีไม่ได้ก็เลยต้องให้นักอาชญาวิทยามาช่วยกันไขคดีซึ่งตัวบุ๊คเป็นนักข่าวสายอาชญากรรมชื่อบทเพลง เดี๋ยวจะมาผจญภัยกัน จริงๆ เรื่องนี้พูดอะไรมากไม่ค่อยได้ เพราะพูดไปเดี๋ยวมันจะสปอยล์
บุ๊ค: แต่แอบสปอยล์นิดนึง จริงๆ เรื่องนี้ บุ๊คได้อ่านบทคร่าวๆ แล้ว บทจะมี
ความงงมาก คือครั้งแรกที่บุ๊คอ่านเลยบุ๊ครู้สึกว่า เฮ้ย! มันจะสามารถเล่าออกมาเป็นซีรีส์ภายใน 10-12 ตอนได้ยังไง เพราะว่าด้วยระยะเวลา ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง มันท้าทายเหมือนกันนะครับ ที่จะเล่าออกมาเป็นแบบซีรีส์ให้ครบ เพราะว่ามันมีความซับซ้อนมากครับ มันมีความพลิกกลับไปกลับมา แล้วผมมั่นใจว่าคนดูจะต้องงง ทั้งงงแล้วก็ชอบแน่นอน ถ้าใครที่ชอบสืบสวนสอบสวนครับ
MF: คอนเสิร์ต LOL LOVE OUT LOUD FAN FEST 2025
ฟอส: คอนเสิร์ต LOL ปีนี้พวกเรามีน้องใหม่ขึ้นมาถึง 3 คู่จากปีที่แล้วเป็น 9 ปีนี้ก็เป็น 11 ครับ ก็รับรองว่าปีนี้สนุกแน่นอน แต่ละปีเราก็พยายามหาสิ่งใหม่มาให้
ผู้ชมเสมอครับ ซึ่งก็แน่นอนว่าปีนี้สนุกขึ้นเพราะว่าคนเยอะขึ้น เรื่องโปรดักชั่นก็ไม่ต้องห่วงครับ เพราะว่าบ้าน GMMTV ของเราทำถึงอยู่แล้ว รับรองเลยว่าแฟนๆ คุ้มค่าบัตรทุกบาททุกสตางค์แน่นอน เพราะว่าดูกันถึง 11 คู่เลย แล้วก็ส่วนใครที่ไม่มีบัตรนะครับ ก็บัตรมันโซลเอาท์ไปแล้วอะเนาะ ก็ฝากทางออนไลน์แล้วกัน ทางไลฟ์สตรีมมิ่งก็เสิร์ชที่ Thaiticketmajor นะครับ ถ้าใครที่ชอบโมเมนต์คู่ไหนก็แท็กมาในแฮชแท็กกันด้วยใน X เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยครับ พวกเราก็จะตั้งใจทำให้ดีที่สุดเพื่อให้แฟนๆ ทุกคนได้มีความสุขกลับไปครับผม
MF: Goal ในการออกกำลังกายของฟอส
ฟอส: Goal ในการออกกำลังกายปีนี้ จริงๆ ผมก็ Hard Work ทุกปีแหละแต่ว่าก็จะมีช่วงผ่อนช่วงเร่งบ้างแต่ว่าช่วงนี้ก็จะเบาๆ หน่อย แต่ว่าก็กำลังเริ่มๆ กลับมาแล้วเพราะว่าเดี๋ยวเราจะต้องเตรียมตัวเป็นเจ้าชาย มันก็จะหุ่นบอดี้ประมาณนี้ไม่ได้แล้วเป็นเจ้าชายก็คงต้องกำยำต้องแข็งแรงหน่อยซึ่งก็คงคอนเซ็ปต์เดิมเราก็จะทำให้ดีที่สุดเพราะว่าเรื่องหุ่นเราก็พูดตรงๆ ว่าเราก็ซีเรียสเพราะว่ามันก็เป็นอิมเมจ ผมก็รู้สึกว่าหลายๆ คนติดภาพลักษณ์ผมที่แบบหุ่นดีไปแล้ว จะทำให้ดีที่สุดก็บอกเลยว่าแฟนๆ ทุกคนที่รอผมเรื่องบอดี้อยู่ก็ไม่ผิดหวังแน่นอนเพราะว่าผมก็ stick อยู่แล้วยังไงก็เป็นกำลังใจให้ผมด้วยครับเพื่อแฟนๆ ทำได้อยู่แล้วครับ
MF: งานอดิเรกของบุ๊คเรื่องการถ่ายรูปกล้องฟิล์ม และการปั้นหม้อ
บุ๊ค: อันนี้อยากเล่าเหมือนกัน ก่อนบทสัมภาษณ์นี้ออกบุ๊คคงได้ไปทริปสักทริปนึงแล้วแหละ อันนี้คือวางแผนไว้เองแล้วครับเพราะว่าล่าสุดบุ๊คไปทรงวาดมา ก็คือไปถ่ายรูปเล่นกับจูเนียร์ครับแล้วรู้สึกว่าฟิลลิ่งในการถ่ายรูปมันกลับมา คือก่อนหน้านี้บุ๊คเป็นคนที่เพื่อนชวนไปไหนก็จะไม่ค่อยไปเพราะว่าเป็นคนติดบ้าน แล้วก็ชอบอยู่กับตัวเองมากกว่า แต่พอหลังๆ เพื่อนชวนไป น้องปูนชวนไป จูเนียร์ชวนไป ฟอสชวนไป หรือพวกเพิร์ธแซนต้าชวนไป ทำให้เราได้ออกไปนอกบ้านมากขึ้นครับ แล้วก็ที่ทรงวาดเป็นอีกครั้งที่ทำให้กลับไปเห็นมุมเก่าๆ แล้วบุ๊คเป็นคนชอบอะไรวินเทจพอได้ไปเห็นมุมนู้นมุมนี้แล้วมัน เฮ้ย! วันนั้นเราบังเอิญหยิบกล้องฟิล์มไปด้วยอันนึงก็เอาไปถ่ายเล่นๆ คงไม่ได้กลับมาถ่ายแล้ว แต่พอได้ไปเห็นวิวแล้วได้แชะรูปไปมันรู้สึกว่า เฮ้ย ได้ยินเสียงชัตเตอร์กลับมาแล้วรู้สึกว่าชอบ หลายๆ อย่างทำให้เรารู้สึกว่าเดี๋ยวเราต้องออกทริปแน่นอน แล้วเดี๋ยวจะถ่ายคลิปมาฝากแฟนๆ ครับ แล้วเดี๋ยวจะเอารูปมาโชว์ แต่เรื่องปั้นหม้อน่าจะไม่ค่อยอินแล้วช่วงนี้ ตอนนั้นก็คือไปทำเพราะว่าเค้าฮิตกัน แล้วก็สนุกดีแต่ถ้าสมมุติเพื่อนชวนไปก็ไปได้


MF: สไตล์การแต่งตัว
ฟอส: ฟอสส่วนใหญ่เวลาแต่งตัวถ้า everyday ลุคะจะชอบใส่พวกเสื้อโปโล
กางเกงสแล็ค รองเท้าแตะ ลุคก็จะ แคชชวลเบาๆ สบายๆ ใส่นาฬิกา แอคเซสเซอรี่บางๆ หรือว่าบางทีที่เราใส่เสื้อเชิ้ตก็จะเป็นค่อนข้างแคชชวลหน่อย ลุคผมก็จะเป็นหนุ่มแบบว่า เรียบๆ Old Money ประมาณนั้น
บุ๊ค: เมื่อก่อนบุ๊คจะเป็นคนชอบสตรีทครับ แต่ช่วงนี้อินเวสเทิร์นเวส แต่เป็น
เวสเทิร์นที่เค้าเรียกว่าประยุกต์ขึ้นมาหน่อย ถ้าคนรู้จักคำว่าเวสเทิร์น ส่วนมากจะเป็นพวกคาวบอยใช่ไหมครับแต่ว่าถ้าผมแต่งก็คงไม่ได้คาวบอยขนาดนั้น มาใส่หมวกคาวบอย รองเท้าบูต ก็คงไม่ไหวจะเป็นแจ็กเกต เสื้อแจ็กเกตยีนส์
กางเกงยีนส์ รองเท้าสีน้ำตาล เข็มขัดน้ำตาล ออกแนวทางฝั่งยุโรป อเมริกา
MF: ไอเท็มที่ขาดไม่ได้
ฟอส: เวลาออกจากบ้านขาดไม่ได้เลยคือ หูฟัง เป็นคนที่ถ้ามีเวลาจะฟังเพลงตลอด หรือบางทีหูฟังมันทำให้เราได้อยู่กับตัวเอง ถ้าพูดตรงๆ ก็คือ เวลาเราไปทำงาน หรือไปข้างนอก เราทำงานเต็มที่แล้วเราก็อยากมีเวลาส่วนตัว ซึ่งการฟังเพลงคือเราได้อยู่กับตัวเองครับ เราก็คงไม่ได้มานั่ง alert อะไรตลอดเวลาหรอก เราก็อยากมีเวลาที่อยู่กับตัวเองบ้าง เพราะว่างานของเราก็พูดตรงๆ ว่ามันขายความเป็นส่วนตัว เพราะฉะนั้นการฟังเพลง แล้วก็ทำอะไรคนเดียวของผม ก็เป็นการพักผ่อนของผมอย่างนึง
บุ๊ค: ของบุ๊คถ้าขาดไม่ได้เลย น้ำหอมครับ เพราะช่วงนี้พึ่งไปเจอไอเท็มใหม่ที่เป็นการปั๊มน้ำหอมจากขวดใหญ่มาใส่ขวดเล็กๆ แล้วผมก็จะติดไว้ 2-3 กลิ่นในกระเป๋า เพราะว่ารู้สึกว่าน้ำหอมมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกเรามั่นใจ คือคนอื่นจะได้กลิ่นรึเปล่าบุ๊คก็ไม่ ไม่ได้วอรี่ขนาดนั้น แต่ว่าตัวเองได้กลิ่นแล้วมันหอม มันก็เป็นเสน่ห์อย่างนึง ทำให้เรามั่นใจขึ้น ว่าเราฉีดกลิ่นนี้แล้วเราดูเข้าถึงง่ายนะ วันนี้ฉีดปุ๊บคนเหลียวมองแบบนั้นครับ ดูสดชื่นตลอดเวลา ดูเหมือนเพิ่งอาบน้ำมามาครับ
MF: Bucket list ที่ต้องทำให้ได้ของแต่ละคน
ฟอส: ผมรู้สึกว่าปีนี้มันเป็นปีที่ผมค้นหาเส้นทางใหม่ๆ ของตัวเอง ในหลายๆ แบบ มันมีสิ่งนึงที่ผมสนใจมานานแล้ว ผมอยากลองทำสิ่งนั้น คือผมอยากทำธุรกิจ
ส่วนตัวที่เป็นของผมเองแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วก็รู้สึกว่าอยากทำให้ได้ แล้วก็ผมเป็นคนชอบเทค ชอบดาต้า ก็รู้สึกว่าอยากวางแผนให้มันดี แล้วก็อีกเรื่องนึงคือเรื่องประกันต่างๆ เราเห็นหลายๆ ครอบครัวนะ ที่ไม่ได้วางแผนชีวิตกันตั้งแต่ตอนหนุ่มๆ แล้วพอไปตอนแก่ก็ลำบากเรารู้สึกว่าถ้าวันนึงเรามีครอบครัว เราก็ไม่อยากให้ลูก หรือว่าให้คนข้างหลังเราต้องหาเงินมาให้เรา ก็เลยรู้สึกว่าพวกนี้คือต้องเตรียมตัวเองไว้ วันใดวันนึงคนข้างหลังจะได้สบาย แล้วเราก็จะได้ไม่ต้องมารู้สึกแย่ด้วยว่า ลูกหรือว่าครอบครัวต้องมาช่วยเหลือเรา ก็รู้สึกว่าเราต้อง
เตรียมตัวตรงนี้ให้ดี เพราะว่าอายุงานเราก็สั้น ตรงนี้เราวางแผนได้ก็ต้องทำให้มันดี ไม่อยากให้คนข้างหลังมาห่วง เพราะว่า ผมค่อนข้างคิดถึงเรื่อง คนข้างหลังและครอบครัวเยอะมาก เพราะผมไม่อยากให้ใครมาลำบากเพราะผม เพราะว่าผมมาเห็นมาเยอะมากๆ กับการที่ไม่ได้วางแผน เราก็รู้สึกว่างั้นเราต้องทำตัวเองให้มันดีที่สุดแค่นั้นเอง
บุ๊ค: ของบุ๊คขอแบ่งเป็นสองพาร์ทแล้วกันครับ เป็นพาร์ทชีวิตส่วนตัวกับชีวิตการทำงานในวงการบันเทิง ถ้าชีวิตส่วนตัวสิ่งที่จะทำให้ได้ในปีนี้เลย คือปลายปีอยากจะพาพ่อแม่ไปเที่ยวช่วงปีใหม่ครับ ส่วนประเทศไหน ยังไม่ชัวร์ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็คงอยากไปอียิปต์ครับ ส่วนเรื่องหน้าที่การงานในวงการบันเทิง คืออยากร้อง
เพลงร็อก ซึ่งสำหรับผมมันยากนะ เพราะว่าผมโดยพื้นฐานแล้วเป็นคนไม่ค่อยกล้าร้องเพลง และการจะร้องเพลงให้เพราะก็ยากสำหรับตัวผม การร้องเพลงร็อกก็เป็นอีกขั้นนึงเพราะว่ามันต้องใช้อินเนอร์แล้วก็ความมั่นใจสูงมากซึ่งผมก็รู้สึกว่าอยากทำสิ่งนั้นให้ได้ แต่ผมเป็นคนผ่อนปรนถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรแต่ถ้าได้ก็ดี
MF: ฝากผลงาน
บุ๊ค: ยังไงก็ขอฝากสายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners ของพวกเราด้วยนะครับ
3 คู่ 6 คน แล้วก็ พี่ๆ น้องๆ ในซีรีส์ด้วยนะครับ แล้วก็ฝาก Fan Meet ของพวกเรา ทั้ง 6 คนด้วย แล้วก็ความลับในบทเพลงที่บรรเลงไม่รู้จบนะครับผม
ฟอส: ของฟอสก็ Scarlet Heart Thailand ครับ แล้วก็ถ้าจะมีผลงานอะไรใหม่ๆ ออกมา เพลง หรือว่ารายการ ซีรีส์ อะไรก็ฝากติดตามด้วยนะครับที่ GMMTV Official IG นะครับผม หรือไม่ก็ YouTube GMMTV Official นะครับ ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ แล้วก็เป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนที่ ไม่ใช่แค่พวกเรา ก็น้องๆ ในค่ายทุกคนก็ฝากซัพพอร์ตน้องๆ ด้วยนะครับ รักใครชอบใครก็ขอมีความสุขนะครับ แฮปปี้ๆ ครับผม เลิฟ เลิฟ ครับ ขอบคุณทุกคนที่ให้การซัพพอร์ตพวกเราอย่างดีก็หวังว่าพวกเราจะเป็นความสุขให้ทุกคนไปนานๆ เหมือนที่ทุกคนก็เป็นความสุขให้พวกเราเหมือนกันก็ขอบคุณมากครับ เลิฟๆ ครับ ขอบคุณครับ

- Stylist Chanond Mingmit
- Photo Ponpisut Peejareon