ม๊าเดี่ยว กับคำว่าทำได้หมด อะไรที่คนอื่นไม่ทำเรา “ทำ”

เมื่อโลกใบนี้เคลื่อนไหวเร็วเกินกว่าจะมองเห็นทุกช่วงการเติบโตของใครบางคน แต่สำหรับ “ม๊าเดี่ยว” หรือ มะเดี่ยว – อภิเชษฐ์ เอติรัตนะ การก้าวผ่านทั้งความสวย ความหม่น ความกล้า และช่วงเวลาที่เคยไม่รักตัวเอง กลับกลายเป็นเส้นทางที่หล่อหลอมตัวตนอันโดดเด่นอย่างไม่ตั้งใจ เขาไม่ใช่คนที่เกิดมาเพื่อเข้าพิมพ์นิยม หากคืออีกหนึ่งบุคคลที่มีความโดดเด่นที่แท้จริง โดยเกิดจากการยอมรับตัวเองทุกด้าน ทั้งส่วนที่รักและส่วนที่เคยเกลียดมาก่อนที่จะปล่อยให้ทั้งหมดผสานกัน จนกลายเป็นพลังที่ไม่อาจลบเลือนได้

MF: ชีวิตช่วงนี้ของม๊าเดี่ยวเป็นยังไงบ้าง

ม๊าเดี่ยว: ชีวิตช่วงนี้ก็เป็นปกติทั่วไปสามารถจ้างได้ ชีวิตช่วงนี้ก็จะเป็นเกี่ยวกับว่าเราก็ได้ทำอะไรใหม่ๆ ที่เราไม่เคยทำ เป็นสิ่งอัศจรรย์ที่วันนึงได้เป็นปุ๋ยพรทิพย์ ไปอีกงานนึงได้เล่นเป็นแม่หมอผี คือเราได้ทำหลายอย่างมากเลยในชีวิต สิ่งที่เข้ามาตอนนี้คือเป็นชาเลนจ์ใหม่ๆให้เราได้ตลอดเลยค่ะ

MF: เล่าให้ฟังหน่อยว่ากว่าจะเป็นม๊าเดี่ยวในวันนี้ผ่านอะไรมาบ้าง

ม๊าเดี่ยว: กว่าจะมาถึงวันนี้ก็ผ่านมาเยอะเหมือนกัน ก็ตั้งแต่ชีวิตวัยเด็กก็หกเหินระเรร่อน ก็คือเป็นฟีลว่าอายุ 15 ต้องมาอยู่ที่กรุงเทพ ต้องมาคนเดียวแล้วก็ต้องอยู่คนเดียวให้ได้เราเลยเป็นสาวสตรองไม่กลัวอะไรชีวิตเราลองเลยค่ะ ก็นั่นแหละใช้ชีวิตให้มันสนุกๆ ค่ะ ไม่ได้คิดมาก เสร็จปุ๊บก็อุ๊ยมาเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ ตอนนั้นก็เรียน Bunka ก็ไม่ได้ชอบอะไร แล้วก็ชีวิตก็โดนโกงจากผู้จัดการตอนเราเป็นดีไซเนอร์ ตอนเราเด็กๆ เราก็ไม่รู้เรื่องอะไร เสร็จปุ๊บก็กลับไปอยู่บ้านพอไปอยู่บ้านก็ได้ทำอะไรหลายๆ อย่างก็ได้ตกตะกอนเรียนรู้ความคิดตัวเองว่าชีวิตเรามันไม่แน่นอนหรอกก็ทำไปฟรีๆ ให้มันสนุกๆ อยากทำอะไรก็ทำไม่อยากทำอะไรก็ไม่ต้องทำ ทำสิ่งที่เราอยากทำสิ่งที่เราชอบนั่นแหละค่ะ

MF: จำผลงานแฟชั่นชิ้นแรกที่ทำได้ไหม

ม๊าเดี่ยว: ชุดใบตอง เป็นฟีลแบบว่าอุ๊ยเดินเข้าไปในบ้าน เดินเข้าไปในสวนแล้วก็จะเป็นแบบอุ๊ย เจอใบตองเอามาอะแด๊ปเป็นชุดดีกว่า เป็นฟีลแดนเซอร์ ฟีลแบบ Margiela แล้วก็เดินเข้าไปในสวนกล้วย แล้วเราก็ไปหยิบใบตองเอามาทำเป็นชุดก็เริ่มโพสต์ลงโซเชียล คนก็รู้จักจากชุดใบตอง ชุดแรกที่เราทำชอบมาก

MF: มองคำว่า สไตล์ ว่ายังไง

ม๊าเดี่ยว: สไตล์หรอบอกเป็นคำพูดไม่ได้ ต้องบอกเป็นเสียงมันเป็นคำพูดไม่ได้คือมันเห็นแล้วมันตะลึง มันว๊าวววมาก มีระดับดูดีอลังการเรียบแพงค่ะ

MF: ปกติแต่งตัวแบบไหน

ม๊าเดี่ยว: แต่ตัวตามฟีลบางครั้งเราก็ไม่อยากแต่งตัว บางทีเราอยากแต่งอะไรที่สบายๆ ค่ะ เราไม่ได้เป็นแบบว่าต้องไปแต่งโอเวอร์ทุกๆ วัน วันไหนเราอยากแต่งเวอร์เราก็แต่งไป เราไม่อยากแต่งเวอร์เราก็ไม่ต้องแต่งเลย คือก็แล้วแต่วัน สไตล์เรามันไม่ได้ชัดเจนอะไรขนาดนั้นเพราะเราอยากเป็นอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลาบางวันเราอยากแต่งเป็นโดเรม่อนเราก็แต่งเราไม่แคร์ วันไหนเราอยากแต่งเป็นป้าแก่เราก็แต่ง วันไหนเราอยากแต่งเป็นวัยรุ่นเราก็แต่ง เราใช้ชีวิตให้เหมือนมีหลากหลายบุคลิกภาพเลยหล่ะค่ะ

MF: มีขอบเขตไหมว่านี่คือสิ่งที่ทำได้” และอะไรคือสิ่งที่จะไม่ทำ

ม๊าเดี่ยว: ขอบเขตก็เรียกว่าไม่มี ก็คือทำได้หมด อะไรที่คนอื่นไม่ทำเราก็ทำ เพราะว่าเรารู้สึกว่าจะมาจำกัดขอบเขตตัวเองทำไม ทำเลยอะไรที่แบบว่าอันนี้ไม่ทำค่ะอันนี้ไม่ได้ค่ะมันก็ไม่ได้ เราต้องลองทำนะอะไรที่เราไม่ชอบเราก็ต้องลองนะ

MF: เคยคิดว่าการเป็นตัวเองทำให้คนรอบข้างไม่เข้าใจบ้างไหม แล้วจัดการกับสิ่งนั้นยังไง

ม๊าเดี่ยว: มันก็มีบ้างคนที่เข้าไม่ถึง คนที่ไม่รู้ว่าเราเป็นแบบไหน คนที่เขาเรียกว่าเป็นโบราณอนาล็อกก็จะเป็นแบบนั้น เพราะว่าเราจริงๆ ไม่ต้องให้ใครมาเข้าใจเรานะ เราบางทีเราก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเลย เราก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันถูกไหมล่ะ มันก็ต้องเป็นแบบใหม่ เราไม่ต้องไปเปลี่ยนความคิดเขาค่ะปล่อยเขาไปเลยเพราะว่าคนไม่ชอบเราไม่เข้าใจเรายังไงเขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดีเขาพยายามจะเข้าใจเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจจริงๆ หรอก เพราะเขาไม่ชินไงมันเป็นอะไรใหม่ๆ แปลกๆ ไงเธอ

MF: อยากรู้ว่าม๊าเดี่ยวเอ็มพาวเวอร์ตัวเองยังไง

ม๊าเดี่ยว: ม๊าเดี่ยวเคยไม่ชอบตัวเองมาก่อน ม๊าเดี่ยวไม่ชอบในขาของตัวเองมาก่อน ม๊าเดี่ยวไม่ชอบในใบหน้าของตัว พอมาถึงจุดนึงมันเอ็มพาวเวอร์อ่ะ มันเกิดจากความที่เราเคยไม่ชอบมันมากๆ ใช่ไหม แล้วพอถึงจุดนึงเรารู้สึกว่ามันก็ไม่ได้แย่นี่ มันก็เลิศหนิ มันก็เก๋หนิ เนี่ยมันคือการเอ็มพาวเวอร์

MF: มองย้อนกลับมา เส้นทางทั้งหมดสอนอะไรกับม๊าเดี่ยวบ้าง

ม๊าเดี่ยว: สิ่งที่สอนม๊าเดี่ยวมากที่สุดก็คือให้เราอย่าชอบตัวเองมากเกินไป ให้เราลองเกลียดตัวเองดูหน่อย ไม่งั้นเราก็เป็นคนอะไรคะ มั่นสิคะลูก อันนี้เป็นการด่าอ้อมๆ นะว่าอย่ามั่นให้มากนัก เรามั่นใจได้แต่อย่ามั่นหน้านะคะ เพราะว่าหน้าเราก็ไม่ได้เลิศ เราก็ต้องทำอย่างอื่นให้เริศค่ะ ก็จะเป็นความสามารถเราค่ะ

ท้ายที่สุด เรื่องราวของม๊าเดี่ยว สามารถสื่อได้ถึงภาพสะท้อนของการเติบโตที่ซื่อตรงกับตัวเองที่สุด การเรียนรู้ที่จะยอมรับทั้งความสวยงามและความไม่สมบูรณ์แบบ การกล้าที่จะหยิบจับช่วงเวลาที่เคยเกลียดตัวเองกลับมามองใหม่จนกลายเป็นพลัง และการใช้ทุกบาดแผลเป็นแรงผลักให้ก้าวต่ออย่างสง่างาม

ม๊าเดี่ยวยังทำให้เราเห็นว่าความงามแท้จริงไม่ได้เกิดจากความมั่นใจสุดขั้ว หากเกิดจากการกล้าเป็นตัวเองในทุกรูปแบบ แม้ในวันที่สับสน ไม่แน่ใจ หรือยังหาคำตอบไม่ได้ และนั่นแหละคือ เสน่ห์ ที่ทำให้เธอกลายเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญที่น่าจับตามองบนโลกออนไลน์และโลกแฟชั่น บุคคลที่ไม่ได้ต้องการให้ใครเข้าใจทั้งหมด แต่ขอเพียงได้ เฉิดฉายในจังหวะของตัวเองอย่างเต็มที่ เพราะในที่สุด ความงดงามที่แท้จริง คือ การอยู่กับตัวเองให้ได้ รักตัวเองให้เป็น และยืนหยัดในเวอร์ชันที่ดีที่สุดของเราทุกครั้งที่เมื่อโลกได้เปิดไฟส่องแสงมาถึงนั่นเอง

INTERVIEW BY THUNTHIWA SAKSIRIWETKUL

More from this stream

Recomended

“PUMA Speedcat Lux” ดีไซน์ที่ถูกตีความใหม่อย่างทรงพลัง

ในโลกที่เส้นแบ่งระหว่างแฟชั่นกับศิลปะเริ่มเบาบางลงทุกที PUMA ได้ก้าวเข้ามาตีความความงามของการเคลื่อนไหวในมิติใหม่...

DiorAlps นิยามความสง่างามที่ก้าวผ่านทุกลมหนาว

ท่ามกลางฤดูกาลที่ธรรมชาติแต่งแต้มยอดเขาด้วยสีขาวโอบล้อม Dior ขอนำพาเรากลับสู่เสน่ห์ของการเดินทางเหนือจินตนาการ...

เปิดประตูสัมผัสโลกอนาคตได้ที่ NEXTOPIA ใจกลางสยาม

เมื่อโลกกำลังก้าวสู่ยุคที่อนาคตไม่ใช่เพียงจินตนาการ แต่คือสิ่งที่เราร่วมกันสร้างขึ้นได้ SIAM...

กลิ่นหอมที่ออกแบบมาเพื่อฤดูกาลแห่งหัวใจในแบบของ Le Labo

เมื่อเทศกาลวันหยุดเริ่มเปิดม่านและความอบอุ่นแห่งฤดูกาลเข้ามาแตะหัวใจอย่างแผ่วเบา Le Labo...

Loro Piana SS26 ความงามของเส้นใยที่เดินทางผ่านกาลเวลา

ท่ามกลางประวัติศาสตร์อันคลาสสิกและบรรยากาศร่วมสมัยของ Loro Piana...

The Seven Deadly Sins: Origin

https://www.youtube.com/watch?v=ZaK-ikCBqP4 The Seven Deadly...