จิม ทอมป์สัน (Jim Thompson) สร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ให้กับวงการแฟชั่นและงานหัตถศิลป์ไทย ด้วยการเผยโฉมคอลเลกชันพิเศษ Jim Thompson X Baan Krua ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อยกย่องและเฉลิมฉลองมรดกการทอผ้าไหมไทย อันเป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์มาตั้งแต่ยุคเริ่มต้น โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างแบรนด์และชุมชนทอผ้าบ้านครัว ชุมชนชาวมุสลิมเก่าแก่ริมคลองแสนแสบในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเสมือนรากฐานสำคัญของตำนาน “ราชาไหมไทย” ที่ก้องโลกมาตั้งแต่ทศวรรษ 1950


คอลเลกชันนี้ถือเป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในรอบเกือบ 50 ปี ระหว่าง จิม ทอมป์สัน และ นิพนธ์ มนูทัศน์ ทายาทรุ่นที่ 3 และเจ้าของโรงทอผ้าไหมแห่งสุดท้ายที่ยังดำเนินกิจการอยู่ในชุมชนบ้านครัว ผู้สืบทอดภูมิปัญญาการทอไหมด้วยหัวใจและสองมืออย่างไม่เคยจาง การร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์เท่านั้น หากยังเป็นการตอกย้ำบทบาทของแบรนด์ Jim Thompson ในฐานะผู้สานต่อมรดกผ้าไหมไทยในบริบทโลกยุคใหม่อย่างสง่างาม



Jim Thompson X Baan Krua ถ่ายทอดเสน่ห์ของผ้าไหมทอมือและลวดลาย “ผ้าขาวม้า” แบบดั้งเดิม ออกมาเป็นแฟชั่นไอเทมร่วมสมัย 4 ชิ้น ได้แก่ กางเกง Fisherman Pants สำหรับสุภาพสตรี, ผ้าพันคอ, พ็อกเก็ตสแควร์ และเนกไท ซึ่งแต่ละชิ้นทอขึ้นจากไหมไทยแท้ด้วยมือ โดยช่างฝีมือจากชุมชนบ้านครัว ถ่ายทอดผ่านสีสันและลวดลาย 4 แบบสุดพิเศษ ได้แก่ Pakaoma Rose Pink, Border Stripes Blue, Horizontal Stripes Beige และ Border Stripes Pink — ทุกเส้นไหมสะท้อนฝีมือและจิตวิญญาณแห่งช่างทอผ้าที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน
แรงบันดาลใจของคอลเลกชันนี้ยังย้อนกลับไปยังแพทเทิร์นในอาร์ไคฟ์ของแบรนด์ และเทคนิคการทอแบบดั้งเดิมที่จิม ทอมป์สันได้เรียนรู้จากชุมชนบ้านครัวตั้งแต่ปี 1951 การผสานอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน จึงกลายเป็นหัวใจของโปรเจ็กต์ที่ทั้งเคารพในรากเหง้าและตอบโจทย์วิถีชีวิตร่วมสมัยได้อย่างงดงาม


เรื่องราวของชุมชนบ้านครัวเริ่มต้นขึ้นกว่า 130 ปีก่อน ในฐานะชุมชนช่างทอที่ผลิตผ้าไหม โสร่ง และผ้าขาวม้าชั้นเลิศ กระทั่งปี 1951 ที่ จิม ทอมป์สัน ได้เข้ามาทำความรู้จักกับชุมชนแห่งนี้ และหลงใหลในฝีมืออันประณีตของพวกเขา เขานำเทคนิคการย้อมสีและการออกแบบลวดลายใหม่ ๆ เข้ามาผสาน จนผ้าไหมไทยมีชีวิตชีวาและโดดเด่นไม่เหมือนใคร จากนั้นจึงนำผ้าไหมไทยไปจัดแสดงที่สหรัฐอเมริกา ทำให้ผ้าไหมไทยกลายเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ และส่งให้ชื่อของ Jim Thompson ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ในฐานะ “ราชาไหมไทย”


แม้หลังการหายตัวไปอย่างลึกลับของจิม ทอมป์สัน ชุมชนบ้านครัวยังคงทอผ้าไหมส่งต่อให้กับบริษัทของเขาอีกกว่าสิบปี ก่อนที่ช่างฝีมือจำนวนมากจะย้ายไปทำงานที่โรงทอของบริษัท อุตสาหกรรมไหมไทย จำกัด จวบจนปัจจุบัน โรงทอของ Jim Thompson ในจังหวัดนครราชสีมา ยังคงรักษามาตรฐานงานฝีมือด้วยการใช้กี่ทอแบบดั้งเดิม และมีช่างท้องถิ่นกว่า 60 คน ที่ยังคงทอผ้าไหมด้วยมือ เพื่อสานต่อจิตวิญญาณแห่งหัตถศิลป์ไทย
นิพนธ์ มนูทัศน์ วัย 77 ปี เล่าว่า ความร่วมมือครั้งนี้มีความหมายลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะเขาเติบโตขึ้นมาท่ามกลางช่วงเวลาที่จิม ทอมป์สันยังคงมาเยี่ยมชุมชนบ้านครัวทุกเช้า เพื่อให้คำแนะนำด้านลวดลายและเทคนิคการทอ “ผมยินดีมากที่เห็นคอลเลกชันใหม่นี้ได้แรงบันดาลใจจากความร่วมมือในยุคแรกของเรา มันเหมือนการได้เห็นเรื่องราวของครอบครัวเราและจิม ทอมป์สัน เดินทางกลับมาพบกันอีกครั้ง”

ด้าน นันท์นภัส เวโรจนวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ Jim Thompson กล่าวเสริมว่า “คอลเลกชันนี้คือการตอกย้ำดีเอ็นเอของแบรนด์ในการรักษามรดกอันทรงคุณค่า พร้อมนำเสนอผ่านมุมมองใหม่ที่ร่วมสมัย เพื่อผลักดันหัตถศิลป์ไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก”



Jim Thompson X Baan Krua หากแต่เป็นบทสนทนาระหว่างอดีตและปัจจุบัน ที่บอกเล่าเรื่องราวของช่างฝีมือ ผืนผ้า และความฝันที่ไม่เคยเลือนหายไปตามกาลเวลา การกลับมาร่วมมือกันอีกครั้งในรอบเกือบครึ่งศตวรรษ คือการยืนยันว่าความงดงามของผ้าไหมไทยนั้นยังคงมีชีวิต และจะยังคงส่องประกายอยู่บนโลกแห่งแฟชั่นสมัยใหม่ ด้วยหัวใจที่ภาคภูมิและเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งหัตถศิลป์ไทยอย่างลงตัว

