ท่ามกลางความเข้มข้นของเกมการเมือง ‘คมเดือน’ เมื่อความรักต้องเผชิญกับอำนาจ การเมือง และการหักหลัง ซีรีส์วายแนว Political เรื่องแรกของไทย
MF: แนะนำตัวกับชาว Men’s Folio Thailand
บอย: สวัสดีครับ ผม บอย ปกรณ์
เบน: ผม เบน บัญญพนต์ ครับผม
MF: พูดถึงซีรี่ส์ คมเดือน MANDATE
บอย: เป็นซีรี่ส์ Political หรือก็คือซีรี่ส์แนวการเมืองที่เป็นการเมืองจริงจังเลย คือเล่าเรื่องเบื้องหลังของการเมืองไทยว่ากลุ่มคนที่เขาอยู่วงการตรงนี้เวลาเขามีการดีลกันหลับหลังเป็นอะไรยังไงบ้าง แต่ระหว่างนั้นก็มีเรื่องราวความสำคัญของหมอหน่องก็คือผม ส.ส.วีก็คือเบน ผมจะโตมาในครอบครัวการเมืองแต่ว่าผมไม่เอาการเมืองเลยเพราะว่าผมเห็นมาเยอะมากว่าคนที่อยู่ในวงการนี้เป็นยังไงแต่ว่าผมจะเป็นคนที่ทำเพื่อสังคมอยู่แล้ว ส.ส.วีก็เลยมาชวนผมให้ไปลงที่พรรคเขาก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้จักกันครับ
MF: มีการเตรียมตัวยังไงสำหรับบทที่ได้รับ
เบน: ผมก็มีไปเวิร์คช็อปแล้วก็มีไปศึกษาเรื่องข่าวการเมืองว่านักการเมืองต้องพูดยังไง เพราะเราต้องสวมบทบาทเป็นนักการเมือง ด้วยความที่ต้องมีความ mature มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอีก
บอย: ก็นอกจากการเวิร์คช็อปก็มีการละลายพฤติกรรมระหว่างผมกับเบนให้รู้จักกันมากขึ้นด้วย จริงๆ แล้วผมถือว่าเป็นรุ่นน้องของเบนในเรื่องซีรี่ส์วายครับเพราะเบนเคยเล่นมาก่อนแล้วแต่ผมไม่เคยเลย ผมก็ต้องไปเรียนรู้ในเวย์ของซีรี่ส์วายด้วยก็เหมือนเป็นอีกโลกนึงในการทำงานของผมก็สนุกดี รู้สึกว่าแฮปปี้ ท้าทาย อีกอย่างคือผมก็ไปดูบทสัมภาษณ์หรือว่าเวลานักการเมืองเขาอภิปรายในสภา ลักษณะคำพูดคำจาของเขา เพราะว่าเขาจะมีคาแรคเตอร์ชัดเจนของนักการเมืองเวลาที่พูด เราก็ไปดูแล้วก็ศึกษาว่าเขาพูดกันลักษณะแบบนี้นะ




MF: ความท้าทายหรือประเด็นที่น่าสนใจในซีรี่ส์
บอย: ก็คือเรื่องราวความรักของส.ส.วีและส.ส.หมอหน่องมันเกิดขึ้นท่ามกลางสงครามกลางเมือง ความจริงแล้วธีมของเรื่องคือถึงรู้ว่าไว้ใจไม่ได้แต่ให้ใจไปแล้ว เรื่องราวของจุดที่ส.ส.วีดึงหมอหน่องเข้ามาในเกมการเมืองจนเกิดความสัมพันธ์ในจิตใจมันก่อตัวขึ้นมาสุดท้ายแล้วเรื่องการเมืองมันก็ไม่เข้าใครออกใครมันดันมี conflict ขึ้นมาทำให้ระหว่างที่เราทำงานไปด้วยก็เกิดความไม่ไว้ใจเขาว่าดึงเราเข้ามาเพื่อเรื่องผลประโยชน์หรือว่าเขาหวังดีกับเราจริงๆ มันเข้มข้นมากๆ
เบน: สำหรับผมก็เรื่องที่มันไม่ได้สดใสจ๋า ความรักก็เป็นความรักของผู้ใหญ่ที่โตขึ้นมาหน่อยมีความ mature มีความเรียล
บอย: แต่ว่าก็ยังหวานอยู่นะครับ
เบน: หวานก็หวานเลย ขมก็ขมเลย เป็นซีรี่ส์วายที่มีความหวานแล้วก็มีความขมเข้ามาปนๆ กันครับ
MF: ความรู้สึกของแต่ละคนตอนรู้ว่าได้เล่นซีรี่ส์ด้วยกัน
บอย: เราเจอกันครั้งแรกก็ตอนที่ถ่ายไพลอต ครั้งแรกผมรู้สึกว่าเขาหน้าเหมือนผม หมายถึงส่าเขาหล่อกว่าผมนะแต่ส่รเขามีความมุมหน้าคล้ายๆ ผม ทรงแบบหน้ายาวๆ ปากเบินๆ คิ้วหนาๆ ผมรู้สึกว่าทรงเดียวกันแต่ผมอาจจะโตกว่าเขาดูแล้วน่าจะไปกันได้แล้วสุดท้ายพอทำงานด้วยกันก็รู้สึกเคมีเราไปกันได้ค่อนข้างดีครับ
เบน: บอกตรงๆ ครั้งแรกก็ค่อนข้างตื่นเต้นพอรู้ว่าแสดงกับพี่บอยก็ทำตัวไม่ค่อยถูกเหมือนกันแต่ว่าพี่เขาเฟรนลี่ แล้วก็รู้สึกว่าเข้าหาได้ง่าย ด้วยความที่ผมเป็นคนไม่ค่อยเข้าหาคนอยู่แล้วแต่รู้สึกว่ามันไม่ได้มีอะไรกั้นทำให้ผมเข้าไปหายากก็เลยรู้สึกว่ามันราบรื่นดีครับ
บอย: ด้วยความที่ผมพอจะเข้าใจน้องด้วยว่าน้องตอนนี้มาเล่นเรื่องที่สอง คือผมไม่ได้คือผมไม่ได้บอกว่าผมเก่งนะแต่ว่าผมแค่ผมทำงานตรงนี้มาหลายปี ตอนผมใหม่ๆ ผมมาเจอกับคนที่เขาทำงานตรงนี้มาหลายปีผมก็เกร็งเหมือนกันแล้วมันทำให้เราไม่กล้าที่จะปรึกษา ไม่กล้าที่จะคุย ไม่กล้าที่จะถาม ผมก็เลยพยายามบอกน้องว่ามีอะไรที่อยากจะคุยอยากจะนัดแนะอยากจะอะไรก็บอกได้ตลอดไม่ต้องเกรงใจ ก็พยายามปรับพฤติกรรมด้วยเพื่อให้น้องเขาสบายใจแล้วเราจะได้เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีต่อกัน



MF: มีความกังวลเรื่องช่องว่างระหว่างวัยไหม
เบน: ก็คล้ายๆ ที่ผมบอกตอนแรกด้วยความที่เหมือนพี่เขาก็โตกว่าผมเยอะก็จะมีความเกรงใจเยอะ แต่ว่าอย่างที่บอกก็พี่เขาก็ friendly nice open มันก็เลยทำให้แบบมันไม่ได้มีอุปสรรคมาก มันก็ผ่านไปได้ง่าย
บอย: ของผม gap ระหว่างวัยมันมีแน่นอนอยู่แล้ว เพราะว่าความจริงแล้วผมกับเบนห่างกัน 17 ปี มันคนละ gen มันข้าม gen กันด้วยแต่ว่าไม่ได้มีปัญหามันแค้อาจจะมีแค่บางอย่างเช่นคนที่เล่นอยู่ด้วยกันเป็นวีรยาหรือฟลุ๊คก็เป็นเด็ก gen เขาก็แค่ว่าเขาก็จะคุยสนุกกันในภาษาเขา เวลากินข้าวก็สนุกของเขา แต่บางทีเราฟังเราไม่เก็ต แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ได้รำคาญเราก็ฟังเขาไปแชร์กับเขาบ้าง แต่ว่ามันไม่ได้เป็นปัญหาในการสื่อสารการทำงานแค่นั้นเอง แต่ว่าเรื่องอื่นเราก็พยายามคุยกับเขา เขาก็คุยกับเรา มันก็มีทั้งเรื่องที่เด็ก gen เขาคุยกันเอง กับเรื่องที่เด็ก gen เขากับเด็ก gen เราคุยกันได้ก็มี
MF: ซีรีส์วายเรื่องแรกเป็นอย่างไรบ้าง
บอย: สนุกครับ สำหรับผมมันก็เป็นความท้าทายครั้งใหม่แล้วก็เปิดโลกใหม่แต่ถามว่ามีความไม่เหมือนกับตอนที่เคยเล่นซีรี่ส์ชายหญิงไหม ก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างอะไรมากมายสุดท้ายพอเราเรียนรู้แล้วมันก็เหมือนกัน ก็แค่เรารักกับใครสักคนนึงแค่นั้นเอง เราก็แค่ไม่ได้ไปมองเรื่องว่าเขาเป็นเพศไหน ก็แค่ว่าเขาคนรักของเราแค่นั้นก็จบแล้วไม่ว่าคุณจะไปเล่นซีรี่ส์ประเภทไหน ต้องรักแบบไหน รักคนเพศไหน แค่เรามองว่าเขาเป็นคนที่เรารักก็จบแล้ว
MF: กดดันไหมกับการมาเป็นพาร์ทเนอร์กับ บอย ปกรณ์
เบน: ก็นิดนึงนะครับด้วยความที่ผมค่อนข้างใหม่กับการแสดง กดดันในเรื่องการแสดงมากกว่าว่าเราจะสามารถส่งไปให้พี่เขาได้เยอะแค่ไหน ด้วยความที่พี่เขามีประสบการณ์มาค่อนข้างเยอะมาก ไม่ใช่แค่พี่เขาครับ ก็รวมถึงพี่ๆ นักแสดงรุ่นใหญ่หลายๆ คน ผมเวลาเข้าฉากด้วยบางทีก็เกร็งว่าจะส่งไปไม่ถึงแล้วเขาแบบไปต่อยากก็จะกดดันเรื่องนี้




MF: หนึ่งคำที่อธิบายการทำงานของอีกคน
เบน: ขยันครับ บทพี่เขาเยอะมากๆ พี่เขาสุดยอดมาก พี่เขาจำได้ดีมากแล้วก็จำได้เร็วมาก
บอย: สำหรับผมเบนเป็นเด็กที่ค่อนข้างเปิดรับ เปิดกว้างมากในการที่จะรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุกคนแนะนำมาแล้วก็นำไปปรับใช้ เป็นผู้ร่วมงานที่ดีมากๆ ของผมที่ผมเคยทำงานมาด้วยเลย เราก็มีอะไรก็คุยกันตลอดปรับจูนกันคุยกันนู่นนี่ไม่เคยมีบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกว่าตึงเครียด ก็จะมีแค่บางทีที่เขาแบบบางทีฉากที่มันอาจจะแบบอารมณ์มากยากๆ มากๆ เขาก็จะกังวลเราก็แค่บอกว่าไม่ต้องกังวลก็ปล่อยตามอารมณ์ปล่อยๆ ไปหรือว่าเขากังวลว่าเขายังไม่ได้แล้วก็บอกไม่ต้องกังวลก็รอได้สบายมากซึ่งแปปเดียวเขาก็ได้ ทุกอย่างมันก็สมูทมากการทำงานระหว่างเราก็รู้สึกว่าเป็นเป็นเด็กที่แบบตั้งใจทำงานแล้วก็สิ่งที่สำคัญคือเขาเปิดรับ เปิดรับมากๆ ดีมากๆ
MF: อยากให้คนดูจดจำ ‘คมเดือน’ และตัวละครของเราแบบไหน
บอย: อย่างแรกเลยก็น่าจะเป็นซีรีส์วายที่เป็นซีรี่ส์วายการเมืองเรื่องแรกเลยครับ แล้วก็จำว่าผมเป็นนักแสดงซีรี่ส์วายที่อายุเยอะที่สุด (หัวเราะ) แล้วก็ถ้าอยากจะจดจำตัวละครของผมก็คือ ส.ส.หมอหน่อง เป็น ส.ส. ที่เรียกว่าไม่ได้เป็นพวกเด็กหน้าห้อง เป็นพวกเด็กหลังห้องที่เกเรเคยใช้ชีวิตแบดๆ มาแต่ว่าสุดท้ายเขาก็เป็น ส.ส. น้ำดีที่สู้ไม่ถอยแล้วก็พร้อมชนกับสิ่งที่ไม่ถูกต้องทั้งหมด
เบน: อยากให้จดจำซีรี่ส์คมเดือนว่าเป็นซีรี่ส์ที่ค่อนข้างเรียล แล้วก็มีความประณีตในการถ่ายทำ ส่วนตัวละคร ส.ส.วี นะครับ ก็ง่ายๆ คือเป็นคนที่ภายนอกดูแข็งแกร่ง แต่จริงๆ ภายในก็ค่อนข้างบอบบางแต่ก็สู้ครับ
MF: ฝากผลงาน
บอย: ฝากด้วยนะครับกับซีรี่ส์ คมเดือน ออนแอร์วันที่ 12 กันยายนนี้ทางช่อง Monomax ตอนอ่านบทมันก็มันมากแล้ว ก็อยากให้ทุกคนติดตามว่าพอมันออกมาเป็นของจริงจะเป็นยังไง เรียกว่าน้ำไม่เยอะเน้นไปทางเนื้อๆ เลยครับ มีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการพลิกผันต้องตัดสินใจต้องลุ้นกันในแทบทุกตอน
เบน: อยากจะฝากให้กำลังใจแล้วก็เชียร์ด้วยนะครับ ทุกคนเต็มที่มากทั้งนักแสดงมทั้งผู้จัด ทั้งผู้กำกับ ทั้งทีมงานทุกคน ก็หวังว่าทุกคนจะสนุกแล้วก็เพลิดเพลินไปกับซีรีส์คมเดือน The Mandate ด้วยนะครับ
บอย: สำหรับสาววายก็ไม่ต้องห่วง Love Line เรื่องนี้ก็จัดหนักจัดเต็ม มีให้ชมแน่นอนครับ



